ญี่ปุ่นเนื้อหอม ต่างชาติขนเงินลงทุนทุบสถิติในเม.ย. รับอานิสงส์นลท.เมินตลาดสหรัฐฯ

ญี่ปุ่นเนื้อหอม ต่างชาติขนเงินลงทุนทุบสถิติในเม.ย. รับอานิสงส์นลท.เมินตลาดสหรัฐฯ

ญี่ปุ่นมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นและพันธบัตรระยะยาว สูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. หลังนักลงทุนหลีกเลี่ยงตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากหวั่นผลกระทบมาตรการการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรระยะยาวของญี่ปุ่น มูลค่ารวม 8.21 ล้านล้านเยน (ประมาณ 56,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิรายเดือนที่สูงที่สุด นับตั้งแต่กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเริ่มเก็บข้อมูลในปี 1996

ยูจิโร่ โกโตะ (Yujiro Goto) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนของโนมูระในญี่ปุ่น กล่าวว่า “แรงสั่นสะเทือนจากภาษีของทรัมป์ น่าจะเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และ performance ของสินทรัพย์ ทำให้นักลงทุนกระจายการลงทุนจากสหรัฐฯ ไปยังตลาดหลักอื่นๆ รวมถึงญี่ปุ่นด้วย”

ยูจิโร่ โกโตะ จากโนมูระ กล่าวเสริมว่า เงินทุนไหลเข้าส่วนใหญ่เกิดจากนักลงทุนสถาบัน ไม่ใช่นักลงทุนรายย่อย โดยกองทุนบำเหน็จบำนาญและผู้จัดการสินทรัพย์อื่น ๆ น่าจะเข้าซื้อหุ้นอย่างหนัก ในขณะที่ พันธบัตรญี่ปุ่นน่าจะถูกซื้อโดยผู้บริหารทุนสำรอง บริษัทประกันชีวิต และกองทุนบำนาญ

นอกจากนี้ เงินไหลเข้าสุทธิในจำนวน 8.21 ล้านล้านเยน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในสัปดาห์แรกหลังจากวันที่ 2 เม.ย. หลังทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีพุ่งขึ้น 0.30%  ขณะที่พันธบัตรญี่ปุ่นร่วงลง 0.21%

แม้ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะเผชิญแรงเทขาย หลังข่าวภาษีของทรัมป์ แต่ตลอดทั้งเดือน ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยไม่ถึง 1%

รัศมี การ์ก (Rashmi Garg) ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสของ Al Dhabi Capital กล่าวว่า “สินทรัพย์ญี่ปุ่นมักถูกมองว่าเป็นแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย และยิ่งน่าดึงดูดมากขึ้นเมื่อแนวโน้มเทขายในสหรัฐฯ เริ่มรุนแรงขึ้นในเดือนเม.ย.” และยังคาดว่า การไหลเข้าของเงินทุนจะชะลอตัวลง เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และข้อตกลงกับประเทศอื่นๆ ที่อาจตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหราชอาณาจักรที่กลายเป็นประเทศแรกที่ลงนามข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน

แม้เงินทุนไหลเข้าสูงสุดในเดือนเม.ย.อาจไม่เกิดซ้ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญในตลาดยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์ญี่ปุ่น และคาดว่าจะยังคงมีเงินไหลเข้าอย่างแข็งแกร่งต่อไป นอกจากนี้ หุ้นญี่ปุ่นยังได้ประโยชน์จากการปฏิรูประบบธรรมาภิบาลของตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) ซึ่งให้ความสำคัญกับผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ตามรายงานของ Asset Management One International

ทั้งนี้ การปฏิรูปดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อเดือนมี.ค. 2023 ซึ่งกำหนดให้บริษัทจดทะเบียนที่มีราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (P/B ต่ำกว่า 1) ต้อง “ปรับปรุงหรืออธิบาย” เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ


ที่มา CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย