OpenAI เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ใช้งาน ChatGPT แบบชำระเงินในภาคธุรกิจมากถึง 3 ล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านราย ที่รายงานเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดย OpenAI ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงปลายปี 2022 หลังเปิดตัวแชทบอท AI อย่าง ChatGPT ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป ก่อนจะเปิดตัวเวอร์ชันสำหรับองค์กรในปีถัดมา
บริษัท ระบุว่า จำนวนผู้ใช้งาน 3 ล้านรายนี้ ประกอบด้วย ลูกค้ากลุ่ม ChatGPT Enterprise, ChatGPT Team และ ChatGPT Edu โดย OpenAI คาดการณ์รายได้ในปีนี้ อยู่ที่ 12,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ เมื่อเดือนก.ย.ปีก่อน บริษัทคาดว่าจะขาดทุนทั้งปีอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Brad Lightcap ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ OpenAI กล่าวว่า “การเติบโตของ ChatGPT ในฐานะเครื่องมือสำหรับผู้บริโภค และการนำมาใช้ในองค์กรและธุรกิจ มีความเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้น” นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดเผยว่า มีผู้ใช้งานรายสัปดาห์มากถึง 500 ล้านคน ณ สิ้นเดือนมี.ค.
Lightcap กล่าวว่า บริษัทได้เห็นการนำเครื่องมือในภาคธุรกิจไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเข้มงวดอย่างภาคการเงินและการดูแลสุขภาพ โดยตัวอย่างของลูกค้ารายใหญ่ ได้แก่ Lowe’s, Morgan Stanley และ Uber
OpenAI ยังเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร อย่าง Connectors สำหรับ ChatGPT Team และ Enterprise โดยผู้ใช้งาน สามารถดึงข้อมูลจากบริการภายนอก เช่น Google Drive, Dropbox, SharePoint, Box และ OneDrive โดยไม่ต้องออกจาก ChatGPT
นอกจากนี้ ยังมี Record Mode ที่ผู้ใช้สามารถบันทึกเสียงและถอดข้อความประชุม (เริ่มต้นเป็นเสียงเท่านั้น) โดยสามารถนำไปใช้งานต่อ เช่น สร้างเอกสารในเครื่องมือ Canvas ของ OpenAI ซึ่ง Record Mode จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้งานบน macOS สำหรับผู้ใช้ ChatGPT Teams และจะตามมาในเวอร์ชัน Plus, Pro, Enterprise และ Edu
Lightcap กล่าวว่า ลูกค้าองค์กรเรียกร้องฟีเจอร์ลักษณะนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งจะช่วยให้บริการต่างๆ สำหรับการใช้งานในองค์กรของ OpenAI มีประโยชน์มากขึ้น “มันต้องทำงานแทนคุณได้ การจะทำเช่นนั้นได้ มันต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานของคุณ มันไม่ใช่เด็กฝึกงานที่ถูกเก็บเข้ากรุ แต่ต้องเห็นสิ่งที่คุณเห็น”
ทั้งนี้ OpenAI ระบุว่า กำลังเซ็นสัญญากับลูกค้าองค์กรใหม่ เฉลี่ย 9 รายต่อสัปดาห์ และบริษัทตั้งใจรักษาอัตราการเติบโตนี้ต่อไป “ผู้คนเริ่มตระหนักว่านี่คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ยุคใหม่”
ที่มา CNBC , สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย