Fund Comment พฤษภาคม 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment พฤษภาคม 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนแห่งการติดตามพัฒนาการการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า  ตลาดการเงินผันผวนตามข่าวที่ออกมา จนถึงขณะนี้  สหรัฐฯ ทำข้อตกลงกับคู่ค้าได้เพียงรายเดียว คือ อังกฤษ แต่ข้อตกลงนั้นเป็นเพียงกรอบการเจรจา ไม่ใช่ข้อตกลงที่สมบูรณ์ ในขณะที่ การเจรจากับจีนในช่วงต้นเดือนออกมาดีเกินคาด โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องให้ลดภาษีระหว่างกัน แต่ถึงตอนนี้ความสัมพันธ์กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่า ละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นที่เคยตกลงกันไว้ ล่าสุด มีข่าวว่า สหรัฐฯ กำลังเร่งรัดให้ประเทศคู่ค้าต่างๆ ยื่นข้อเสนอทางการค้าที่ดีที่สุดภายในวันที่ 4 มิ.ย. 2568 เพื่อเร่งการหารือก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตาย สำหรับประเทศไทย รัฐบาลให้ข่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอไปแล้วและอยู่ระหว่างรอคิวเจรจา

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระหว่างเดือนผันผวน ได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งข่าวการเจรจาการค้าที่เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย Moody’s ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงจาก Aaa เป็น Aa1 ความกังวลต่อความยั่งยืนทางการคลัง ภาระหนี้ที่ใกล้ถึงเส้นตายขยายเพดานหนี้ ความเสี่ยงที่อาจขาดดุลเพิ่ม จากมาตรการปรับลดภาษีที่กำลังถูกผลักดันและอยู่ระหว่างส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา รวมถึงประธานาธิบดี ทรัมป์ที่ถูกศาลการค้าระหว่างประเทศตัดสินว่า ใช้อำนาจเกินขอบเขต ขณะนี้อยู่ระหว่างอุทธรณ์ สิ้นเดือน พ.ค. อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 0.29% 0.24% 0.24% และ 0.25% เมื่อเทียบสิ้นเดือนก่อน มาอยู่ที่ 3.89% 3.96% 4.41% และ 4.93% ตามลำดับ สำหรับผลการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 7-8 พ.ค. ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% – 4.50% โดยให้เหตุผลว่า ต้องการรอดูทิศทางเศรษฐกิจให้ชัดเจน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้า อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจภาพรวมยังแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานฟื้นตัวดี แม้อัตราการว่างงานขยับขึ้น ส่วนการใช้จ่ายภาคครัวเรือนทรงตัว ผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวัง Stagflation

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย เทียบสิ้นเดือนก่อน ปรับตัวกรอบแคบหลัง กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายไปแล้วในวันที่ 30 เม.ย. 2568 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 2 ปี และ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.03% และ 0.02% มาอยู่ที่ 1.57% และ 1.62% ตามลำดับ ในขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ปรับลง 0.09% มาอยู่ที่ 1.80% สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัว 3.1% ได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวในเกณฑ์สูง แต่การลงทุนภาคเอกชนลดลงต่อเนื่อง ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ส่งสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง หดตัว -0.22% yoy จากที่ขยายตัว 0.84% yoy ในเดือน มี.ค. จากการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและราคาผักสด

สำหรับในระยะต่อไป ความผันผวนยังคงอยู่ ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ มาตรการภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจไทยยังไม่เห็นแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โอกาสเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มอีกในปีนี้ยังมีอยู่