อินเดียขึ้นแท่น แซงจีนส่งออกสมาร์ทโฟนไปสหรัฐฯ พุ่ง 240% ในไตรมาส 2

อินเดียขึ้นแท่น แซงจีนส่งออกสมาร์ทโฟนไปสหรัฐฯ พุ่ง 240% ในไตรมาส 2

อินเดียขึ้นแท่น แซงจีนส่งออกสมาร์ทโฟนไปสหรัฐฯ พุ่ง 240% ในไตรมาส 2 ตอกย้ำย้ายฐานการผลิต

ข้อมูลของบริษัทวิจัย Canalys แสดงให้เห็นว่า อินเดียแซงหน้าจีนขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดไปยังสหรัฐฯ สะท้อนแนวโน้มการย้ายห่วงโซ่อุปทานการผลิตออกจากจีน ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโ ดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ นำเข้าสมาร์ทโฟนที่ประกอบในอินเดีย มีสัดส่วนถึง 44% ในไตรมาส 2 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากอัตราเพียง 13% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยปริมาณสมาร์ทโฟนที่ผลิตในอินเดียโดยรวม พุ่งสูงขึ้นถึง 240% จากปีก่อนหน้า ในทางตรงกันข้าม สัดส่วนการส่งออกสมาร์ทโฟนของจีนไปยังสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 25% ในไตรมาส 2 จากอัตรา 61% ในปีก่อนหน้า โดยข้อมูลของ Canalys ยังระบุว่า สัดส่วนการส่งออกสมาร์ทโฟนของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ ก็สูงกว่าของจีนเช่นกันที่ 30%

นักวิเคราะห์ของ Canalys กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนจากอินเดีย เป็นผลมาจากการที่ Apple เร่งย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศดังกล่าวในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่อินเดียส่งออกสมาร์ทโฟนไปสหรัฐฯ ได้มากกว่าจีน ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า Apple ได้เร่งแผนการผลิต iPhone ส่วนใหญ่ที่จะจำหน่ายในสหรัฐฯ ที่โรงงานในอินเดียในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิต iPhone ประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งหมดในประเทศนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขู่ Apple ด้วยภาษีนำเข้าเพิ่มเติม และเรียกร้องให้ทิม คุก ซีอีโอของบริษัท ย้ายกลับมาผลิต iPhone ในประเทศสหรัฐฯ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากจะทำให้ราคา iPhone พุ่งสูงขึ้น

แม้ว่าผลิตภัณฑ์หลักหลายรายการของ Apple รวมถึง iPhone และแล็ปท็อป Mac จะได้รับการยกเว้นจาก “ภาษีตอบโต้” (reciprocal tariffs) ของทรัมป์ แต่เจ้าหน้าที่ได้เตือนว่าอาจเป็นการผ่อนผันเพียงชั่วคราวเท่านั้น ด้าน Samsung Electronic และ Motorola ซึ่งเป็นคู่แข่งระดับโลก ก็พยายามย้ายฐานการประกอบสมาร์ทโฟนสำหรับจำหน่ายในสหรัฐฯ ไปยังอินเดียเช่นกัน แม้ว่าจะช้ากว่า Apple อย่างมากและมีขนาดจำกัดก็ตาม

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดการจัดส่ง (shipments) ซึ่งแสดงถึงจำนวนอุปกรณ์ที่ส่งไปยังผู้ค้าปลีกจะไม่ได้สะท้อนยอดขายสุดท้ายโดยตรง แต่ก็เป็นตัวบ่งชี้ความต้องการของตลาดได้ ซึ่งโดยรวมแล้ว ยอดจัดส่ง iPhone ไปยังสหรัฐฯ ลดลง 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 13.3 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ตรงข้ามกับการเติบโต 25.7% ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ยอดจัดส่ง iPhone ทั่วโลก ลดลง 2% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 44.8 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ปี 2025

ที่มา CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย