วอลล์สตรีท มองแนวโน้ม S&P 500 ใกล้ปรับฐาน หลังสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแอ

วอลล์สตรีท มองแนวโน้ม S&P 500 ใกล้ปรับฐาน หลังสัญญาณเศรษฐกิจอ่อนแอ

นักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท อาทิ Morgan Stanley, Deutsche Bank AG และ Evercore ISI เตือนแนวโน้มตลาดใกล้เข้าสู่ช่วงปรับฐาน หลังมูลค่าหุ้นพุ่งสูง สวนทางข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

โดยคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P500 จะเข้าสู่ช่วงปรับฐานเร็ ๆ นี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ หรือเดือนข้างหน้า โดยตลาดกลับมาดีดตัวหลังแตะจุดต่ำสุดในเดือนเม.ย. และทำนิวไฮหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา โดยนักวิเคราะห์มีมุมมอง ดังนี้

  • ไมค์ วิลสัน (Mike Wilson) นักกลยุทธ์จาก Morgan Stanley มองว่า ดัชนีอาจปรับฐานที่ 10% ในไตรมาสนี้ เนื่องจากมาตรการภาษีที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและงบดุลของบริษัท โดยในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แจ้งนักลงทุนว่า อาจจะมีการปรับฐานลงเล็กน้อยในไตรมาสที่ 3
  • จูเลียน เอมานูเอล (Julian Emanuel) จาก Evercore คาดว่า ดัชนีจะย่อตัวลงไปถึง 15%
  • ปารัก แทตต์ (Parag Thatte) จาก Deutsche Bank ตั้งข้อสังเกตว่า ตลาดควรจะต้องปรับตัวลงไปแล้ว หลังพุ่งขึ้นต่อเนื่องมานานกว่าสามเดือน

นักวิเคราะห์ได้ออกมาเตือน เนื่องจากตลาดมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ขณะที่ ตลาดแรงงานอ่อนแอลง ส่วนการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังเข้าสู่ช่วงที่ปกติแล้วจะอ่อนแอที่สุดของปี โดยข้อมูลของบลูมเบิร์กเผยสถิติในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ทำผลงานได้แย่ที่สุดในช่วงเดือนส.ค. และก.ย. ซึ่งตามค่าเฉลี่ยจะลดลง 0.7% ในช่วงเดือนดังกล่าว ขณะที่เดือนอื่น ๆ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.1%

ขณะที่ ราคาหุ้นเริ่มสูงเกินไป โดยค่าดัชนี Relative Strength Index ในรอบ 14 วัน ของดัชนี S&P 500 พุ่งเกินระดับ 76 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2024 ก่อนที่หุ้นสหรัฐฯ จะพุ่งทำนิวไฮช่วงสั้นๆ และยังอยู่เหนือระดับ 70 ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคมองว่า ตลาดเริ่มร้อนแรงเกินไป

ความกังวลว่า ตลาดหุ้นจะร่วงลง ยังสะท้อนผ่านตลาดออปชัน ซึ่งตอนนี้การซื้อประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยง (Hedging) มีราคาสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงที่ดัชนี S&P 500 จะเข้าสู่ช่วงปรับฐาน 10% ในช่วงสองเดือนข้างหน้า ตอนนี้สูงพอๆ กับช่วงที่เกิดวิกฤตธนาคารระดับภูมิภาคเมื่อเดือนพ.ค. 2023

แม้จะมีความกังวลในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์จาก Evercore ย้ำว่า ตลาดกระทิงยังส่งสัญญาณในระยะยาว แม้จะมีความผันผวนก็ตาม โดยเฉพาะบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่วน Deutsche Bank ชี้ให้เห็นว่า ในอดีต ดัชนี S&P 500 มักจะปรับฐานเล็กน้อยประมาณ 3% โดยเฉลี่ยทุก ๆ 1.5 – 2 เดือน และปรับฐานที่มากกว่า 5% ขึ้นไป ทุก ๆ 3-4 เดือน

ที่มา Bloomberg, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย