
ลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ประกาศให้การสร้างงานสำหรับประชาชนเป็นวาระสูงสุดของรัฐบาล ท่ามกลางความเสี่ยงจากการกีดกันทางการค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลกระทบจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ลอว์เรนซ์ หว่อง ย้ำว่า ความท้าทายสำคัญ คือ การแข่งขันระหว่างจีน-สหรัฐฯ มาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภัยคุกคามต่อแรงงานจากเทคโนโลยีใหม่ ในการกล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติสิงคโปร์ (The National Day Rally) ซึ่งในปีนี้ครบรอบการก่อตั้งประเทศ ปีที่ 60
ผู้นำสิงคโปร์ กล่าวว่า “กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของเรา คือ ‘งาน งาน และงาน’ นี่คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด และจะทำมากขึ้นเพื่อช่วยชาวสิงคโปร์คว้าโอกาสใหม่ๆ ในตลาดแรงงาน”
พรรค People’s Action Party (PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ได้ขยายนโยบายด้านสวัสดิการเพิ่มมากขึ้น ทั้งโครงการเงินชดเชยกรณีว่างงานครั้งแรกและเงินอุดหนุนสำหรับอาหาร พลังงาน และการศึกษาหลายพันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ อีกทั้งยังเตรียมเปิดโครงการจับคู่ตำแหน่งงาน (job-matching) และโครงการฝึกงานสำหรับบัณฑิตใหม่ โดยรัฐจะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ให้ใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงแผนพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยใหม่ เพื่อรองรับอนาคตและความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง
ลอว์เรนซ์ หว่อง ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ จะทบทวนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อให้สิงคโปร์สามารถแข่งขันได้ในโลกที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงพลังงานสะอาด การบุกตลาดต่างประเทศ หรือการรับมือแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์
ทั้งนี้ สิงคโปร์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปีนี้เป็น 1.5%–2.5% จากเดิม 0%–2% หลังเศรษฐกิจครึ่งปีแรกออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ส่วนหนึ่งมาจากการเร่งส่งออกสินค้า ก่อนที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้าอย่างเป็นทางการ
ที่มา Bloomberg, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย