
Apple เร่งขยายกำลังการผลิต iPhone ในประเทศอินเดีย โดยใช้โรงงาน 5 แห่ง เพื่อเตรียมรองรับการเปิดตัว iPhone 17 ซีรีส์รุ่นใหม่ ท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อการที่อินเดียนำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นการช่วยเหลือรัสเซียในการสู้รบกับยูเครน
การขยายกำลังการผลิตครั้งนี้จะครอบคลุมไปถึงโรงงานและสายการผลิตใหม่ของ Tata Group และ Foxconn Technology ซึ่งเป็นผู้รับจ้างผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก เพื่อผลิต iPhone รุ่นใหม่ นอกจากนี้ Apple ยังมีแผนเปิดตัว iPhone 17e รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะผลิตในอินเดียตั้งแต่ปีหน้า โดยจะถูกวางตำแหน่งเป็นโมเดลราคาย่อมเยา เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคอินเดียและตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตสูง
การเร่งผลิตในอินเดียสะท้อนยุทธศาสตร์ของ Apple ที่ต้องการลดการพึ่งพาจีนท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้า โดยข้อมูลจาก Canalys ระบุว่า ยอดจัดส่ง iPhone จากอินเดียไปสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 76% ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
แม้เผชิญความเสี่ยงจากมาตรการภาษีต่ออินเดีย แต่ Apple ได้ประกาศลงทุนในสหรัฐฯ มากกว่า 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 4 ปีข้างหน้า โดยล่าสุดเพิ่งขยายแผนลงทุนเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการอัดงบ 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายกำลังการผลิตกระจก iPhone ของบริษัท Corning ซึ่งการลงทุนดังกล่าว ถูกมองว่าจะช่วยให้ Apple ลดแรงกระทบจากมาตรการภาษีอินเดียของสหรัฐฯ ได้
ด้านสก็อต เบสเซนท์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุว่า “เรามีแผนจะเพิ่มภาษีนำเข้าต่ออินเดีย นี่จะเป็นมาตรการภาษีทุติยภูมิสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซียที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร อินเดียแสวงหากำไรจากการซื้อน้ำมันรัสเซียในราคาต่ำแล้วนำไปขายต่อในช่วงที่เกิดสงครามยูเครน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็น 50% และยังขู่เพิ่มเติมว่าหากไม่มีข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนภายในก.ย.นี้ เขาอาจขึ้นภาษีทุติยภูมิสูงถึง 100% ต่อประเทศคู่ค้าของรัสเซีย
ที่มา CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย