“Yen Carry Trade” กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลัง “ทาคาอิจิ” จ่อขึ้นนายกฯญี่ปุ่น เขย่าค่าเงิน–ตลาดโลก โดยนักวิเคราะห์บางรายคาดเยนอาจอ่อนค่าต่อเนื่องแตะระดับ 180 เยนต่อยูโร
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นักลงทุนทั่วโลกเตรียมกลับเข้าสู่การเทรดแบบ Carry Trade หรือกลยุทธ์กู้ยืมเงินในสกุลเยนที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เพื่อนำไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น เรียลบราซิล หรือดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากที่ซานาเอะ ทาคาอิจิ ผู้มีจุดยืนสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ มีแนวโน้มขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เงินเยนร่วงลงเมื่อเทียบกับทุกสกุลหลัก หลังนักลงทุนคาดว่า ทาคาอิจิจะผลักดันนโยบายการคลังแบบขยายตัวต่อไป และส่งผลให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ถูกเลื่อนออกไป ซึ่งจะทำให้เยนยังคงเป็นแหล่งเงินทุนราคาถูกสำหรับนักเทรดทั่วโลก
Jane Foley หัวหน้ากลยุทธ์ค่าเงิน Rabobank กล่าวว่า “ตลาดน่าจะสรุปได้ว่า ยุคของแคร์รี เทรดด้วยเยน กลับมาแล้ว อย่างน้อยก็ในระยะสั้น”
ชัยชนะของทาคาอิจิในศึกเลือกตั้งพรรค LDP ทำให้ค่าเงินเยนร่วงลงถึง 2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นร่วงแรง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า เธอจะใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวและจุดกระแสเงินเฟ้อให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น
ทาคาอิจิ เคยวิจารณ์ธนาคารกลางญี่ปุ่นที่เร่งขึ้นดอกเบี้ย และคาดว่า เธออาจเรียกร้องให้ BOJ ชะลอนโยบายการตึงตัวทางการเงิน หากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดย เอ็ตสึโระ ฮอนดะ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทาคาอิจิ ระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมนี้อาจเร็วเกินไป และควรเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคมแทน
ทั้งนี้ สัญญาแลกอัตราดอกเบี้ย (Swaps) ในตลาดชี้ว่า ความน่าจะเป็นที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ลดลงเหลือเพียง 19% จากระดับ 57% ก่อนหน้าการเลือกตั้งผู้นำพรรค ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยญี่ปุ่นปัจจุบันอยู่ที่เพียง 0.5% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในโลก
มาซายูกิ นากาจิมะ นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโส Mizuho Bank กล่าวว่า “ถ้าทาคาอิจิ ยังยืนยันว่า เงินเยนอ่อนค่า ไม่เป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจ และเห็นว่า ควรชะลอการขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้แคร์รี เทรดกลับมาคึกคักอีกครั้ง และค่าเงินเยนจะอ่อนค่าลงในวงกว้าง”
นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank เปิดเผยว่า ได้ปิดสถานะ “ซื้อเยน” แล้ว เนื่องจากปัจจัยบวกของเยนขณะนี้ แทบไม่มี หลังผลการเลือกตั้งสร้างความประหลาดใจให้ตลาด
ข้อมูลของ Bloomberg ชี้ว่า ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แคร์รี เทรด โดยใช้เงินเยนเป็นแหล่งทุนสร้างผลตอบแทนสูงสุดในตลาดเงินทั่วโลก เช่น การขายเยนเพื่อซื้อเปโซโคลอมเบีย ให้ผลตอบแทนกว่า 5% ในเดือนเดียว ขณะที่ ขายฟรังก์สวิสให้ผลเพียง 3%
ในขณะเดียวกัน ความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) ของคู่เงินดอลลาร์–เยน ลดลงกว่า 40% จากจุดสูงสุดของปี แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 12 เดือนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นักลงทุนจึงจับตาสุนทรพจน์ของกรรมการ BOJ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อหาสัญญาณว่า ธนาคารจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม Erik Nelson นักกลยุทธ์จาก Wells Fargo มองว่า BOJ ไม่น่าจะเปลี่ยนจุดยืนเร็วขนาดนั้น
อีริก เนลสัน กล่าวว่า “BOJ รู้ล่วงหน้าว่าจะมีการเลือกตั้ง แต่ก็ยังส่งสัญญาณชัดว่า การขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หากจู่ ๆ BOJ อ่อนเสียงลง ก็จะยิ่งหนุนให้ตลาดกลับมาขายเยนอีกครั้ง แต่ผมยังไม่เชื่อว่า พวกเขาจะเปลี่ยนจุดยืนเร็วขนาดนั้น”
ทั้งนี้ นักลงทุนเคยได้รับผลกระทบจากแคร์รี เทรดมาก่อน เช่น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ BOJ ขึ้นดอกเบี้ยพร้อมประกาศลดการซื้อพันธบัตร ทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าฉับพลันและส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก แต่สำหรับตอนนี้เงินเยนที่อ่อนค่า กลับเป็นแรงดึงดูดสำคัญให้กลยุทธ์นี้กลับมาน่าลงทุนอีกครั้ง
ชูซึเกะ ยามาดะ หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินญี่ปุ่นและอัตราดอกเบี้ยของ BofA Securities กล่าวกับ Bloomberg TV ว่า “ตอนนี้แคร์รี เทรดยังคงน่าดึงดูด …เราคาดว่า คู่เงินดอลลาร์–เยนจะขยับขึ้นไปแตะ 155 ภายในสิ้นปีนี้ เพราะตลาดยังต้องปรับตัวตามนโยบายของทาคาอิจิอีกมาก”
ที่มา: bloomberg.com, การเงินธนาคารออนไลน์