ซีอีโอ JP Morgan ห่วงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใกล้ปรับฐานใหญ่ – ชี้หลายปัจจัยทำโลกผันผวนหนัก

ซีอีโอ JP Morgan ห่วงตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใกล้ปรับฐานใหญ่ – ชี้หลายปัจจัยทำโลกผันผวนหนัก

เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JP Morgan ให้สัมภาษณ์กับ BBC แสดงความกังวลว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจเข้าสู่การปรับฐานครั้งใหญ่ในช่วง 6 เดือน – 2 ปีข้างหน้า ซึ่งความเสี่ยงที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะร่วงลงอย่างรุนแรงนั้น สูงกว่าที่ตลาดกำลังสะท้อนอยู่ในปัจจุบัน

ไดมอน ระบุว่า ตนเองกังวลมากกว่าที่คนอื่นๆ กังวลกี่ยวกับการปรับฐานของตลาดครั้งใหญ่ ซึ่งเขาคาดว่าอาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 6 เดือนถึง 2 ปีข้างหน้า

ซีอีโอของธนาคารยักษ์ใหญ่ยังกล่าวอีกว่า สหรัฐฯ กลายเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้น้อยลงในเวทีโลก รวมถึงแสดงความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในสหรัฐฯ แต่ยังเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงความเป็นอิสระไว้ได้ แม้รัฐบาลทรัมป์จะโจมตีเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด หลายต่อหลายครั้ง

ไดมอนให้สัมภาษณ์ในระหว่างไปร่วมงานที่เมืองบอร์นมัท ของอังกฤษ ในระหว่างประกาศการลงทุน 350 ล้านปอนด์ ในแคมปัสของ JP Morgan และยังลงทุนในองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อีก 3.5 ล้านปอนด์

แต่ถ้ามองภาพรวมเศรษฐกิจ ไดมอน คาดว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะร้อนแรงเกินไป “มีปัจจัยหลายอย่างที่สร้างบรรยากาศของความไม่แน่นอน พร้อมชี้ถึงปัจจัยเสี่ยง เช่น บริบททางภูมิรัฐศาสตร์ ค่าใช้จ่ายทางการคลัง และการเสริมกำลังทหารทั่วโลก

“สิ่งเหล่านี้สร้างปัญหามากมายที่เราไม่รู้คำตอบ ความไม่แน่นอนน่าจะสูงขึ้นในความคิดของคนส่วนใหญ่ เมื่อเทียบกับภาวะปกติในความเห็นผม” 

ขณะที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ได้เปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับภาวะฟองสบู่ดอทคอม (ตามมาด้วยฟองสบู่ระเบิด) ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และเตือนว่า มูลค่าของบริษัทเทคโนโลยี AI เข้าขั้นตึงตัว และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะปรับฐานอย่างรุนแรง ท่ามกลางการเติบโตของตลาดหุ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ได้แรงหนุนจากการลงทุนใน AI

ขณะเดียวกัน ไดมอน ยังกล่าวว่า “ผมมองว่า AI เป็นของจริง โดยรวมมันจะให้ผลตอบแทน เหมือนกับรถยนต์ ทีวี แต่คนส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ AI กลับทำได้ไม่ดีนัก เงินบางส่วนที่ลงทุนใน AI นั้นอาจจะสูญเสียไป

ประเด็นด้านความมั่นคงทั่วโลกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ซีอีโอ JP Morgan ให้ความสนใจ โดยระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นเมื่อต้นปีนี้ว่า ขีปนาวุธของสหรัฐฯ อาจหมดลงภายในเจ็ดวันหากเกิดสงครามในทะเลจีนใต้ และกล่าวถึงวิธีการที่โลกจะต่อสู้กับปัจจัยเสี่ยงได้ก็ คือ การลงทุนทางทหารที่มากขึ้น

“ผู้คนพูดถึงการสะสมสินทรัพย์อย่างคริปโต ผมมักจะบอกว่า เราควรสะสมกระสุน ปืน และระเบิด โลกเป็นสถานที่ที่อันตรายขึ้นมาก”

ที่มา: BBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย