เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่คึกคัก รับอานิสงส์ทองพุ่งไม่หยุด – หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน

เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่คึกคัก รับอานิสงส์ทองพุ่งไม่หยุด – หนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน

ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังสร้างผลตอบแทนก้อนโตให้กับประเทศตลาดเกิดใหม่ ทั้งในฐานะผู้ผลิตและผู้ซื้อทองคำ ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้น

แอฟริกาใต้ ซึ่งถือเป็นแหล่งเหมืองทองคำที่ลึกที่สุดในโลก ตลาดหุ้นกำลังมุ่งหน้าสู่ปีที่ดีที่สุดในรอบกว่า 20 ปี โดยหุ้นของบริษัทเหมืองทองรายใหญ่ เช่น Sibanye Stillwater Ltd., AngloGold Ashanti Plc และ Gold Fields Ltd. ปรับตัวขึ้นกว่า 3 เท่าจากต้นปี ขณะเดียวกัน Moody’s Ratings ยังได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศกานา ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา สะท้อนประโยชน์ที่ประเทศผู้ผลิตได้รับจากราคาทองที่สูงขึ้น

สำหรับผู้จัดการกองทุนในตลาดเกิดใหม่ การพุ่งขึ้นของราคาทองคำยิ่งเป็นแรงหนุนให้คงมุมมองเชิงบวกต่อภูมิภาคนี้ไว้ โดยราคาทองที่เพิ่มสูงยังกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นในการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยนักกลยุทธ์ Goldman Sachs Group ระบุว่า จุดแข็งด้านการทำเหมืองของแอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คาดว่าหุ้นและพันธบัตรของประเทศจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป

แดเนียล วูด (Daniel Wood) ผู้จัดการพอร์ตของ William Blair Investment Management กล่าวว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำให้ประโยชน์กับกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่บางแห่ง เช่น อุซเบกิสถาน กานา และแอฟริกาใต้ โดยมองว่า การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำสะท้อนถึงการที่นักลงทุนทั่วโลก เริ่มหันไปหาสินทรัพย์ทางเลือก แทนที่จะถือครองสกุลเงินหลักในตลาดพัฒนาแล้ว อย่างดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกล่าวว่า เขามีมุมมองเชิงบวกต่อค่าเงินของอุซเบกิสถาน เนื่องจากประเทศนี้เป็นทั้งผู้ผลิตทองคำรายใหญ่และมีทุนสำรองทองคำในระดับสูง อีกทั้งราคาทองที่พุ่งขึ้น ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นของแอฟริกาใต้ให้ทำสถิติได้อย่างโดดเด่นในปีนี้

ดัชนี FTSE/JSE Africa All Shares ของแอฟริกาใต้ ปรับตัวขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ขณะที่ ค่าเงินแรนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 9% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อที่ชะลอลง ทำให้ธนาคารกลางสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน

ด้านกานาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่ได้อานิสงส์จากราคาทองที่พุ่งสูง หลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2022 จนต้องผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งประเทศกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูภายใต้การนำของประธานาธิบดี จอห์น มาฮามา (John Mahama) โดยค่าเงินเซดีของกานาแข็งค่าขึ้นประมาณ 38% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลก ขณะที่ บรรดานักลงทุนยังจับตาประเทศอย่างโปแลนด์ ตุรกี และคาซัคสถาน ซึ่งต่างก็เพิ่มการถือครองทองคำสำรองของประเทศ โดยอเล็กซิส เดอ โมเนส (Alexis de Mones) ผู้จัดการพอร์ตตราสารหนี้จาก Ashmore Group Plc เตือนว่า แม้แนวโน้มดังกล่าวเป็นบวก แต่ก็ไม่ควรตีความว่า การเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองจะสะท้อนความแข็งแกร่งทางเครดิตโดยตรง

ทั้งนี้ อเล็กซิส เดอ โมเนส อธิบายว่า ปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดเกิดใหม่ในขณะนี้ คือ ราคาทองที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นในช่วงที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และภาวะทางการเงินทั่วโลกที่ผ่อนคลายลง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่

มุมมองดังกล่าวสอดคล้องกับ หนิง ซุน (Ning Sun) นักกลยุทธ์อาวุโสด้านตลาดเกิดใหม่จาก State Street Markets ที่กล่าวว่า โดยทั่วไปการเพิ่มขึ้นของราคาทองมักเกิดในช่วงที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่รอบนี้สถานการณ์กลับตรงข้าม เพราะความอ่อนแอของดอลลาร์สหรัฐและความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเกิดใหม่กลายเป็นผู้ชนะ

ที่มา Bloomberg, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย