แบงก์ชาติญี่ปุ่น ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แตะ 0.75% สูงสุดในรอบ 30 ปี หลังเงินเฟ้อเกินเป้าต่อเนื่อง

แบงก์ชาติญี่ปุ่น ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แตะ 0.75% สูงสุดในรอบ 30 ปี หลังเงินเฟ้อเกินเป้าต่อเนื่อง

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1995 พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติ ขณะที่เงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวเหนือกรอบเป้าหมาย 2% มานานเกือบ 4 ปี

แม้จะปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ BOJ ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rates) ยังคงติดลบ และยืนยันว่า สภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายจะยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป โดยมีเป้าหมายต้องการเห็นวงจรที่เป็นบวก ระหว่างการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคาสินค้าที่สอดคล้องกัน โดยคาดว่า บริษัทต่างๆ จะปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่องในปีหน้า

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเริ่มดำเนินนโยบายการเงินสู่ระดับปกติเมื่อปีที่ผ่านมา และยุติการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงใช้แนวทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทต่างๆ จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นค่าจ้างต่อไปในปีหน้า  โดยให้เหตุผลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ บริษัทต่างๆ เริ่มส่งผ่านต้นทุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นไปยังราคาสินค้าที่วางจำหน่าย

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นพุ่งสูงเกินเป้าหมาย 2% ติดต่อกันนานถึง 44 เดือน โดยข้อมูลล่าสุดที่เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) เดือนพ.ย. ขยายตัวอยู่ที่ 2.9% ขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ระดับ 3.0% ส่วนดัชนี Core-core CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเชิงลึก ที่ตัดผลกระทบจากราคาอาหารและพลังงานออก ชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งภาวะเงินเฟ้อที่สูงดังกล่าวกดดันให้ค่าจ้างที่แท้จริง (Real Wages) ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ตามข้อมูลของกระทรวงแรงงาน

การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น และสร้างความตึงเครียดทางการคลังเพิ่มตามไปด้วย ปัจจุบัน ญี่ปุ่นยังครองสถิติประเทศที่มีสัดส่วนหนี้ต่อ GDP สูงที่สุดในโลก โดยอยู่ที่เกือบ 230% ตามข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

ด้านค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 154-157 เยนต่อดอลลาร์ มาตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยอ่อนค่าลงกว่า 2.5% นับตั้งแต่ที่ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่งในเดือนต.ค.

ด้าน Shigeto Nagai หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจญี่ปุ่น จาก Oxford Economics  เผยกับสำนักข่าว CNBC ก่อนที่ BOJ จะมีมติขึ้นดอกเบี้ย โดยคาดว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในช่วงกลางปี 2026 เพื่อให้อัตราดอกเบี้ย สู่ระดับ Terminal rate ที่ระดับ 1% ซึ่งเป็นระดับดอกเบี้ยที่สร้างสมดุลระหว่างเงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้เศรษฐกิจร้อนแรง หรือชะลอตัวจนเกินไป

ที่มา: CNBC, สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย