ทองคำเข้าโหมดขาขึ้นยาว ทำนิวไฮวันที่ 50 ของปี

ทองคำเข้าโหมดขาขึ้นยาว ทำนิวไฮวันที่ 50 ของปี

ทองคำเข้าโหมดขาขึ้นยาว ทำนิวไฮวันที่ 50 ของปี หนุนเงิน-หุ้นเหมืองพุ่งตาม รับดอกเบี้ยขาลง – ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

ราคาทองคำยังคงทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องในวันอังคาร และนับเป็นวันที่ 50 ของปีนี้ ที่ราคาทองคำทำสถิติใหม่ ขณะที่ นักลงทุนประเมินความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ล่าสุด ราคาทองคำโลก พุ่งขึ้นเหนือระดับ 4,480 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เป็นครั้งแรก หลังปรับตัวขึ้นแรง 2.4% ในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันมากที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน ภายหลังนักลงทุนในตลาดเพิ่มคาดการณ์ว่า เฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีหน้า ส่งผลให้ภาวะดอกเบี้ยต่ำเอื้อต่อสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยอย่างทองคำ

เสน่ห์ของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ยิ่งเด่นชัดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูง โดยเฉพาะในเวเนซุเอลา หลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมัน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี นิโกลัส มาดูโร โดยนับตั้งแต่ต้นปี ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วถึง 70% หลังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกในระดับสูง รวมถึงกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ที่อ้างอิงทองคำ โดยทองคำมีแนวโน้มทำผลงานรายปีดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 ซึ่งข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า ปริมาณการถือครองทองคำในกองทุน ETF เพิ่มขึ้นทุกเดือนของปีนี้ ยกเว้นเดือน พ.ค.

ความเคลื่อนไหวเชิงรุกของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการปรับโครงสร้างการค้าโลก รวมถึงการข่มขู่ต่อความเป็นอิสระของเฟด ได้ช่วยกระพือกระแสขาขึ้นของทองคำตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังมีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงกระตุ้นจากกระแสที่เรียกว่า “Debasement trade” ซึ่งหมายถึง การลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลและสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง จากความกังวลว่า มูลค่าจะถูกบั่นทอนลงในระยะยาวจากระดับหนี้ที่พุ่งสูง

แม้ราคาทองคำ จะเคยย่อตัวลงจากจุดสูงสุดก่อนหน้าในเดือน ต.ค. จากมุมมองว่า การปรับขึ้นของราคาเริ่มสูงเกินไป แต่ราคาก็ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และขณะนี้ ถูกมองว่า มีแนวโน้มรักษาแรงส่งดังกล่าวต่อเนื่องไปถึงปีหน้า โดยโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป เป็นหนึ่งในหลายสถาบันการเงินที่คาดว่าราคาทองคำจะยังปรับตัวขึ้นต่อในปี 2026 พร้อมประเมินกรณีฐานที่ระดับ 4,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และยังมีความเสี่ยงด้านบวกเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ราคาทองคำในตลาดสปอต ปรับขึ้น 0.8% สู่ระดับ 4,479.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 9:20 น. ตามเวลาสิงคโปร์

ขณะเดียวกัน ราคาเงิน ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงไม่แพ้กัน โดยทำสถิติที่ราว 68.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 128% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งในสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มเหมืองทองคำและเหมืองเงิน ที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด โดยกองทุน iShares MSCI Global Gold Miners ETF ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 2.7%

แม้ว่าตลาดจะได้รับข่าวการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. และแรงซื้อหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะกลับมาในช่วงการซื้อขายก่อนหน้า แต่การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจสำหรับปีหน้า ได้กระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกกลับมาใช้กลยุทธ์การเทรดเชิงป้องกัน เพื่อปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน

ทั้งนี้ แมทธิว แมคเลนแนน หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุนเชิงคุณค่าระดับโลกของ First Eagle Investments ระบุว่า จากภาวะขาดดุลงบประมาณขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ทำให้มูลค่าทองคำกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแข่งขัน เพื่อเสนอชื่อประธานธนาคารกลาง สหรัฐฯ คนใหม่ ท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับความเป็นอิสระและความน่าเชื่อถือของเฟด หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากดดันเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดคนปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Bloomberg และ CNBC,