By…ศิรารัตน์ อรุณจิตต์
Portfolio Management
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา การเข้าถึงอินเตอร์เนตยังน้อย ช้อปปิ้งออนไลน์ยังไม่แพร่หลาย แต่มาปัจจุบันจะเห็นการเติบโตของธุรกิจออนไลน์มากขึ้น บริการส่งของเกิดขึ้นมากมาย แล้วอีกสัก 10 กว่าปีข้างหน้า การบริโภคของผู้คนจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบไหนบ้าง เป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทาย หากเราคาดการณ์ได้ จะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์การลงทุน และธุรกิจได้ต่อไป
จากรายงานของ Euromonitor ได้กล่าวถึงแนวโน้มของการบริโภคในอีกสัก 10 กว่าปีข้างหน้าที่น่าสนใจ ซึ่งจุดหลักสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงของภาคครัวเรือน ผ่านการเปลี่ยนแปลงของ 3 โครงสร้างสำคัญ ได้แก่ 1) การเพิ่มขึ้นของการอยู่อาศัยคนเดียว (single-person households) 2) การขยายตัวของความเป็นเมือง (Further urbanization) และ 3) สังคมดิจิตอล (Digitalization) ลองมาดูกันนะคะว่า 3 โครงสร้างสำคัญที่จะมีผลให้การบริโภคในวันข้างหน้าเปลี่ยนแปลงไปนั้น มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
การเพิ่มขึ้นของการอยู่อาศัยคนเดียว (single-person households)
ในระหว่างปี 2016-2030 ทั่วโลกจะมีครอบครัวที่มีผู้อาศัยคนเดียวเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในบรรดากลุ่มครัวเรือนอื่น จากกราฟจะเห็นได้ว่า ในกลุ่มนี้มีการเติบโตมากกว่า 30% ส่วนครอบครัวที่แต่งงานแต่ไม่มีลูก มีการเติบโตรองลงมาที่ราว 27% ขณะที่ ครอบครัวที่แต่งงานและมีบุตร มีการเติบโตน้อยที่สุดที่ราว 16%
จากครัวเรือนทั่วโลกปัจจุบันประมาณ 2 พันล้านครัวเรือน จะมีครัวเรือนที่มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวคิดเป็นสัดส่วน 15% หรือประมาณ 300 ล้านครัวเรือน ซึ่งประเทศที่มีสัดส่วนครัวเรือนที่มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวมากที่สุดคือ ประเทศในกลุ่มยุโรป ที่มีสัดส่วนมากกว่า 40% ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี และนอร์เวย์
หากพิจารณาในแง่ของการเติบโตของสัดส่วน พบว่า ตั้งแต่ปี 1960 มีการเติบโตของจำนวนครัวเรือนที่มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางประเทศอย่างกลุ่มยูโรโซน ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ มีการเติบโตที่เพิ่มขึ้นสูงมากกว่า 2 เท่า
ปัจจัยหลักสำคัญที่เป็นสิ่งผลักดันให้มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของครอบครัวที่มีผู้อาศัยอยู่คนเดียวคือ การเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านอาชีพและการศึกษา ผู้คนได้รับการศึกษาที่ดีขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิงที่ได้รับโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้น รวมถึงคนรุ่นใหม่จะมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง สนใจความเป็นตัวเองสูง ความสนใจด้านการมีครอบครัวจึงเริ่มลดลง การแต่งงานและมีลูกจะช้าลง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยี ผู้คนเข้าถึงสื่อทางบันเทิงได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งการเดินทางท่องเที่ยวที่สะดวกและราคาถูกมากกว่าสมัยก่อน ส่งผลให้คนมีทางเลือกในการใช้เวลาว่างด้วยตนเองได้มากขึ้น ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือ การเพิ่มขึ้นของการอยู่คนเดียวของผู้สูงอายุด้วยเหตุผลจากการเป็นหม้าย และการหย่าร้างที่มีมากขึ้น ดังตัวอย่างข้อมูลในปี 2015 ของอังกฤษพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุมีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มครอบครัวที่มีผู้อาศัยคนเดียว
เมื่อครอบครัวที่มีผู้อาศัยอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้น สิ่งที่ตามมาต่อภาคการบริโภคคือ สินค้าต้องลดขนาดแพคเกจลง บริการทางด้านบันเทิง ท่องเที่ยว และกีฬาจะได้รับความสนใจมากขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ผู้คนจะเน้นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน เช่น อุปกรณ์อัตโนมัติต่างๆ
การขยายตัวของความเป็นเมือง (Further urbanization)
ยูเอ็นได้มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2030 ประชากรโลกจะมีจำนวนถึง 8.5 พันล้านคน เพิ่มขึ้นราว 60% จากปี 1990 ที่มีจำนวนประชากรโลก 5.3 พันล้านคน สิ่งที่ตามมาจากการเพิ่มขึ้นข้างต้นคือ การขยายตัวของความเป็นเมือง โดยในปี 2030 มากกว่า 60% ของประชากรโลกทั้งหมดจะอาศัยในเขตเมืองและจะทำให้เกิดเมืองขนาดใหญ่ทั่วโลกมากขึ้น
สิ่งนี้จะทำให้เกิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการทำธุรกิจเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในสังคมเมืองที่มีกำลังซื้อจะเพิ่มขึ้น และผู้คนจะมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปเมื่อสังคมเมืองขยายตัว ซึ่งแนวโน้มที่จะเห็นได้ชัดคือ พื้นที่อยู่อาศัยลดลง อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงขึ้น คนจึงต้องการที่อยู่อาศัยแบบคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนต์เพิ่มขึ้นตามมาด้วยความต้องการขอสินเชื่อที่จะเพิ่มขึ้น
สังคมดิจิตอล (Digitalization)
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันเราเข้าสู่สังคมดิจิตอล มีการขยายตัวของการเข้าถึงอินเตอร์เนตอย่างรวดเร็ว ผู้คนรับความบันเทิงต่างๆ ได้ง่ายๆ ผ่านจอมือถือไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ การซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น และในอีก 10 ปีข้างหน้า ไลฟ์สไตล์ของคนมีแนวโน้มเปลี่ยนไปมากขึ้น บริการทางด้านอนเตอร์เนตจะมีความสำคัญสูง พฤติกรรมของคนที่อยากออกจากบ้านเพื่อช้อปปิ้งคงน้อยลง เทรนด์หนึ่งที่อาจจะมาเรียกว่า Sofa shopping คือการที่คนเอกเขนกช้อปปิ้งสบายๆ ผ่านมือถือ แทปเลตที่บ้าน ดังนั้น บริการทางด้าน e-commerce / e-banking / e-health / e-education จะมีการเติบโตที่ดี และสินค้าจำพวกสมาร์ทโฟน สมาร์ททีวี เป็นสิ่งที่จำเป็นกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไป
จากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่มองไปข้างหน้า จะช่วยให้เราเห็นโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในภาคธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หากกล่าวถึงโอกาสเราจะเห็นว่า การบริการด้านดิจิตอล (digital service) ระบบบ้านอัจฉริยะ (smart home) จะได้รับความสนใจมากขึ้น รวมถึง บริการทางด้านสุขภาพต่างๆ ทั้ง daycare / ข้อมูลสุขภาพออนไลน์ (e-health) / การดูแลสุขภาพจากพื้นที่ห่างไกล (mobility-assisting service) ที่จำเป็นมากขึ้นในสังคมผู้สูงอายุ ขณะที่การขยายตัวของสังคมเมืองจะทำให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม จึงมีอานิสงส์มาสู่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริษัทก่อสร้าง เป็นต้น
ส่วนความท้าทายอาจจะพบได้จากการเพิ่มขึ้นของครอบครัวที่มีผู้อาศัยคนเดียว ทำให้อำนาจในการซื้อสินค้าและบริการลดลงมากกว่าการจ่ายเป็นคู่ ขณะเดียวกันความต้องการที่อยู่อาศัยแบบบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์มีโอกาสลดลงจากความต้องการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น
อีกแค่ 10 ปี ไม่ได้ไกลเกินไปเลย อย่าลืมเตรียมพร้อมการลงทุนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนะคะ