สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เฟด มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตรา 0.25% มาอยู่ที่ 2%-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปี 2019
ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด วานนี้ (26 ก.ย.61) มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตรา 0.25% มาอยู่ที่ 2%-2.25% เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจเกิดขึ้นอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้งในปีหน้า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 8 นับแต่เฟดเริ่มกลับการดำเนินนโยบายการเงินในระดับปกติเมื่อปี 2015 และทำให้ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับเดียวกับในเดือนเมษายนปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินโลก
การประชุมดังกล่าว เฟดได้มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเฟดได้เพิ่มประมาณการจีดีพีสหรัฐฯปี 2018 จาก ขยายตัว 2.8% (จากการคาดการณ์เมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา) เป็นขยายตัว 3.1% และได้เพิ่มประมาณการการขยายตัวของจีดีพีปี 2019 จาก 2.4% เป็น 2.5% แต่ยังคงประมาณการการขยายตัวในปี 2020 ที่ระดับ 2%
เป็นครั้งแรกที่เฟดให้ตัวเลขประมาณการการขยายตัวของจีดีพีในปี 2021 โดยคาดว่า จะขยายตัว 1.8% สะท้อนให้เห็นว่า เฟดมีมุมมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะขยายตัวชะลอลงในระยะยาว
Mark Cabana หัวหน้านักกลยุทธ์ที่แบงก์ออฟอเมริกาเมอร์ริลลินช์ (Bank of America Merrill Lynch) กล่าวถึงกรณีที่เฟดคาดจีดีพีในปี 2021จะขยายตัว 1.8%ว่า ‘เฟดกำลังมองว่า เศรษฐกิจในปี 2021 จะชะลอตัว และนับเป็นครั้งแรกที่เฟดคาดการณ์แบบนั้น ดังนั้น ผมจึงคิดว่า ความเชื่อมั่นที่เฟดมีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาวกำลังลดลง’