ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ขณะนี้บริษัทประกันภัยรถยนต์ต่างๆ ในสหรัฐ กำลังทดลองการเรียกเก็บเงินประกันกับผู้ขับรถบนพื้นฐานของพฤติกรรมการขับขี่อย่างแท้จริง แทนที่จะใช้สถิติทั่วไป เช่น ประวัติการขับรถ พื้นที่ที่ขับขี่ หรืออายุ โดยแทนที่ผู้ขับขี่จะต้องกรอกแบบฟอร์ม และแจ้งเลขใบอนุญาตขับขี่ แล้วยังต้องสับสนเกี่ยวกับการให้ข้อมูลอีกหลายๆ อย่าง ตามที่ประกันร้องขอ เกี่ยวกับประวัติการขับขี่ที่ผ่านมาแล้ว ในรูปแบบการทำประกันใหม่นี้ เพียงแค่คุณให้บริษัทประกันสังเกตการขับรถของคุณเล็กน้อย ก็จะเสนอราคามาได้ บนพื้นฐานประวัติการขับขี่เร็วๆ นี้ของคุณ
เทคโนโลยีนี้ มีชื่อว่า ประกันบนพื้นฐานการใช้งาน โดยมีบริษัทสตาร์ทอัพที่ตั้งอยู่ในโอไฮโอชื่อว่า Root Insurance เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทนี้เพิ่งระดมทุนในรอบซีรีย์ ดีไป 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าบริษัทไปอยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Root Insurance ดำเนินการใน 20 รัฐทั่วสหรัฐ และมีแผนจะขยายบริการให้ครอบคลุมทั้ง 50 รัฐภายในปี 2019
ผู้ทำประกันภัยรถยนต์นั้นต่างก็กำลังทดลองใช้ประกันภัยบนพื้นฐานการใช้งานอยู่ โดยใช้สมาร์ทโฟนที่มีติดตั้งแอปพลิเคชัน ที่สามารถติดตามประวัติการขับรถล่าสุดได้เพื่อทำประกันภัย ภายใต้โปรแกรมที่ชื่อว่า Snapshot เนื่องจากจะได้รับส่วนลดตามพฤติกรรมการขับขี่ และยังได้รับรางวัลถ้าขับขี่อย่างปลอดภัยด้วย James Haas หัวหน้าธุรกิจประกันภัยบนพื้นฐานการใช้งาน ของบริษัท Progressive กล่าว
ทางด้าน Root Insurance เองก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน กับที่ Progressive ทำ คือ ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปบนสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ จากนั้นก็ให้เปิดการใช้งานติดตามค้นหาสถานที่ล่าสุด พร้อมกับอัพโหลดใบอนุญาตขับขี่ที่มีเข้าไป จากนั้นก็ขับรถได้ โดยไม่ต้องมาลงทะเบียนเข้าหรือเปิดแอประหว่างที่ขับขี่ เพราะแอปจะทำงานอย่างเงียบๆ อยู่เบื้องหลัง เก็บข้อมูลทักษะการขับขี่
ทั้งนี้ ลูกค้าของ Root Insurance จะได้รับอัตราค่าประกันที่ต่ำกว่าบริษัทประกันที่ใช้งานก่อนหน้า 52% โดยบริษัทระบุว่า ลูกค้ารายงานว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้เฉลี่ย 1,187 ดอลลาร์สหรัฐต่อปีเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์เมื่อเทียบกับอัตราที่ได้รับจากผู้ให้บริการรายอื่น ขณะที่ทาง Progressive ระบุว่า ได้ให้ส่วนลดไปมากกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้โปรแกรม Snapshot ซึ่งผู้ขับขี่ระบุว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี