ทางออกของชมรมคนรูด(บัตร) ติดลมจมกองหนี้
โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP®
ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน
BF Knowledge Center
คนที่ใช้บัตรเครดิตจนเพลิน รูดจนไม่มีจ่าย รู้ตัวอีกทีหนี้บานเบอะ จะแก้ปัญหาได้อย่างไรบ้าง
- ที่เป็นอย่างนี้ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเกิดจาก อะไร เพราะบางคนเป็นหนี้เพราะความจำเป็น แต่บางคนเป็นหนี้เพราะความเพลิดเพลิน อดใจไม่อยู่
- ทั้ง 2 แบบ หากเป็นหนี้แล้ว พันกันไปมา รูดใบที่ 1 มาจ่ายใบที่ 2 รูดใบที่ 2 จ่ายใบที่ 3 พันกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ นับวันหนี้ที่มีก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น โตขึ้น เพราะเราไม่หยุดการใช้จ่าย ยิ่งรูดก็ยิ่งมีดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
- ดังนั้น วิธีการแก้ อย่างแรก ต้องมีความกล้า กล้าเอาภาระหนี้ที่มีมากางดูเลยว่ามีหนี้อะไรบ้าง เช่น หนี้บัตรเครดิต A หนี้บัตรเครดิต B หนี้บัตรกดเงินสด C แล้วดูว่ามีหนี้คงเหลือแต่ละที่เท่าไหร่ หนี้บัตรใบไหนมีมากที่สุด หนี้บัตรใบไหนจ่ายขั้นต่ำน้อยที่สุด และดูว่าจะต้องจ่ายอีกนานเท่าไหร่ ใบไหนสามารถจ่ายได้หมดเร็วที่สุด ยกตัวอย่างเช่น
- เห็นแบบนี้แล้ว จะเห็นว่า ยอดขั้นต่ำที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนคือ 45,000 บาท และหนี้ที่มีดอกเบี้ยจ่ายสูงสุดคือ บัตรเครดิต A ดังนั้น หากสามารถจ่ายเพิ่มได้อีก และการคิดดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอก การโปะหนี้แล้วช่วยลดภาระหนี้ได้คือการโปะหนี้บัตรเครดิต A ในขณะที่ยังต้องจ่ายขั้นต่ำของบัตรใบเดิม
- แต่ถ้าจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนไม่ไหวแล้ว ต้องลองหาสถาบันการเงินที่การรวมหนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นธนาคารรัฐบาล ซึ่งจะให้รวมหนี้มาอยู่ที่เดียว แล้วทางสถาบันการเงินจะเป็นผู้ไปเคลียร์ภาระหนี้อื่นๆ ที่มีให้ หากสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้จะทำให้ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายลงไปได้มาก
- หรือหาสินเชื่อส่วนบุคคล ที่สถาบันการเงินสามารถให้เงินก้อนเรามาเพื่อปิดภาระหนี้ทั้งหมดได้ เพื่อจะได้เหลือภาระหนี้ที่เดียว หากสถาบันการเงินให้ดอกเบี้ยจ่ายในอัตราที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาที่ผ่อนนานกว่า ก็จะทำให้มีสภาพคล่องคงเหลือในแต่ละเดือนมากกว่า แต่วิธีนี้ต้องสอบถามด้วยว่า หากมีเงินสามารถโปะเพิ่มได้หรือไม่ และลดต้นลดดอกด้วยหรือเปล่า
- หากโปะเพิ่มไม่ได้ หรือไม่ลดต้นลดดอก ก็จ่ายตามกำหนดที่เขากำหนดไว้ แต่ถ้าสามารถโปะเพิ่มได้ ลดต้นลดดอก และปิดยอดได้ก่อนกำหนด จะยิ่งดีมาก
วิธีที่จะช่วยโปะ หรือลดภาระดอกเบี้ย ต้องทำอย่างไรบ้าง
หากอยากทำให้ลดภาระหนี้ได้มากขึ้น ต้องหาเงินให้ได้มากขึ้น โดย
- สามารถหาเงินมาโปะหนี้ได้มากขึ้นไหม เช่น หางานพิเศษทำ ทำ OT
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง หรือยืดระยะเวลาที่จะต้องจ่ายออกไปโดยไม่เป็นการก่อภาระหนี้เพิ่ม
- ดูทรัพย์สินที่มีในบ้าน ว่ามีอะไรที่สามารถนำมาขายเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อใช้หนี้ได้บ้าง แต่ควรเป็นทรัพย์สินที่เราไม่ได้ใช้ ไม่อย่างนั้นแล้วเราอาจต้องหาเงินมาซื้อของใหม่อีก
- อดทนจ่ายหนี้ที่มี อดกลั้นในการใช้จ่ายของฟุ่มเฟือย เพื่อให้ภาระหนี้ที่มีหมดไป
- จ่ายให้จบ จ่ายให้หมด และไม่กลับมาเป็นหนี้อีก
แล้วถ้าเป็นหนี้นอกระบบมีวิธีจัดการอย่างไรบ้าง
- ต้องมีสติ เพราะหนี้นอกระบบ มีดอกเบี้ยที่สูงมาก ดอกเบี้ยคิดเป็นรายวันก็มี รายสัปดาห์ก็มี หรือรายเดือน อย่างเช่นร้อยละ 2 อาจเป็นร้อยละ 2 ต่อวัน หรือปีนึงมีดอกเบี้ย 730% เพราะฉะนั้น ไม่ควรเป็นหนี้นอกระบบ แต่ถ้าหลวมตัวเป็นไปแล้ว ก็ต้องพยายามจ่ายคืน โดยต้องจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถหลุดพ้นออกมาได้
- แจ้งญาติ เพื่อนสนิท ถึงปัญหา เพื่อไม่ให้เขากังวล หากมีใครโทรมาข่มขู่
- อย่าหนีปัญหา ต้องสู้ หาทางออก เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยทั้งหมด มีอะไรที่ขายเป็นเงินได้ขายเปลี่ยนเป็นเงินให้หมด
- (หนี้นอกระบบ บางเจ้า ให้จ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ เงินต้นไม่ลด จ่ายแต่ดอกเบี้ย จนดอกเบี้ยที่จ่ายคืนมากกว่าเงินต้นไป 3-4 เท่าแล้ว ดังนั้น อย่าได้หลวมตัวไปเป็นหนี้นอกระบบ
ในกรณีที่สามารถหลุดพ้นจากกองหนี้แล้ว มีวิธีการทำตัวอย่างไรเพื่อไม่ให้เป็นหนี้อีกหรือไม่
- หลังจากภาระหนี้หมดแล้ว ไม่ควรก่อภาระหนี้ใหม่อีก พยายามอดออมเก็บเงินก่อนใช้จ่ายให้ได้อย่างน้อยๆ 10% ต่อเดือน เพื่อ หากอนาคตจำเป็นต้องใช้เงินแบบจำเป็นจริงๆ จะได้มีเงินมาใช้โดยไม่ต้องไปกู้ใคร