เดอะสเตรทไทม์ รายงานว่า จากการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการทำงานที่ยืดหยุ่นใน 16 ตลาดงานหลัก พบว่า การเปลี่ยนไปสู่รูปแบบการทำงานแบบไม่ประจำ จะมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์มากขึ้น โดยจะครองมูลค่า 54,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2030 เพิ่มขึ้น 27,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบัน
Regus ซึ่งเป็นผู้จัดหาคนทำงานระดับโลก ที่สนับสนุนการจัดทำผลศึกษานี้ ระบุว่า การกระจายสัดส่วนคนทำงานแบบไม่ประจำในปัจจุบัน คิดเป็น 6.1% ของแรงงานโดยรวมของชาติในปี 2017 แต่ตัวเลขนี้คงไม่ใช่สำหรับปี 2030 ด้วย
นอกจากนี้ ทาง Regus ยังชี้ว่า ในปี 2030 นั้น น่าจะมีตำแหน่งงานมากกว่า 73,000 ตำแหน่ง ที่เป็นรูปแบบงานที่มีความยืดหยุ่น โดยงานในกลุ่มที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ งานสนับสนุนธุรกิจ งานบริหารจัดการสาธารณะ งานด้านข้อมูลและการสื่อสาร ด้านการเงิน และบริการอสังหาริมทรัพย์ จะคิดเป็น 83.5% ของมูลค่างานทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มงานที่มีความยืดหยุ่นในวงจรธุรกิจ
หากคิดเป็นสัดส่วนแล้วจะพบว่า 8-13% ของการจ้างงานทั้งหมดจะอยู่ในกลุ่มงานที่มีความยืดหยุ่น สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในปี 2030
“งานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยให้ธุรกิจประหยัดเงิน ลดต้นทุนการปฏิบัติงาน และเพิ่มผลิตภาพได้ส่งผลดีไปสู่เศรษฐกิจและธุรกิจหลักๆ” รายงานจาก Regus ระบุ