Global Industry Vision (GIV) ของหัวเว่ยคาดการณ์ว่า อัตราการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเพิ่มขึ้นแตะ 86% ภายในปี 2025 ขณะที่การตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลและระบบนิเวศทางธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์จาก AI พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์รูปแบบใหม่แก่ลูกค้านั้น จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนภาคธุรกิจที่สำคัญ อีกทั้งเทคโนโลยี AI กำลังเข้ามาขับเคลื่อน และพลิกโฉมวงการเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ICT)
ขณะที่ รายงานล่าสุดของหัวเว่ย ในหัวข้อ “AI Fabric, Intelligent and Lossless Data Center Network in the AI Era” แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วน ในการสร้างเครือข่ายศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะที่ปราศจากการสูญเสีย (lossless) ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI สร้างรายได้จากข้อมูล
รายงานฉบับนี้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับข้อได้เปรียบ และผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ AI Fabric ในการสร้างเครือข่ายอัจฉริยะที่มีโอกาสการสูญเสียเป็นศูนย์ (zero packet loss) ค่าความหน่วงต่ำ (low latency) และมีอัตราการรับส่งข้อมูลสูง (high throughput) โดยรายงานที่ว่านี้นับเป็นข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญ เพื่อนำไปสร้างเครือข่ายศูนย์ข้อมูลยุคใหม่
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า 67% ของซีอีโอบริษัทข้ามพรมแดนราว 2,000 แห่ง มองว่า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหัวใจหลักในกลยุทธ์ธุรกิจของตน โดยการใช้เทคโนโลยี AI ในการค้นหาข้อมูลจากปริมาณข้อมูลทีทมีอยู่มหาศาลเป็นสิ่งที่ปฏิบัติกันทั่วไป
ลีออน หวัง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเครือข่ายศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวว่า โซลูชัน AI Fabric ของหัวเว่ยเป็นโซลูชัน นวัตกรรมในยุค AI ซึ่งจะช่วยเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพการเก็บรักษาข้อมูล และช่วยเพิ่มอัตราส่วนผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ ROI ให้กับองค์กรต่าง ๆ ได้อีกหลายสิบเท่า