By…ทนง ขันทอง
โลกเราไม่เคลื่อนไหวช้าเหมือนเดิม
David Rowan ผู้ก่อตั้งสื่อ Wired UK ของอังกฤษได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในผู้กล่าวในงานเปิดสัมมนา “17th Annual dbAccess China Conference” ในวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยเขาส่งสัญญาณว่าโลกเราจะไม่เคลื่อนไหวช้าเหมือนเดิมอีกต่อไป
การเข้าถึงนวัตกรรม ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ราคาถูก การเงินและระบบคลาวด์ทำให้เกิดประชาธิปไตยในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่ไหนก็ได้ โดยใครก็ได้ที่มีความสามารถ
เทคโนโลยีทำให้เกิดการพัฒนาแบบเลขชี้กำลัง (exponential growth) และมีอัตราเร่งที่รวดเร็วมาก Rowan บอกว่า จีนเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในยุคนี้ การที่กล่าวหาว่าจีนเป็นผู้ลอกเลียนแบบเป็นสิ่งที่ล้าสมัยไปแล้ว เพราะว่าจีนกำลังทำให้เราเห็นว่าโมเดลของการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องทำอย่างไร
Rowan ยกตัวอย่างแนวโน้มของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มีผลกระทบในปัจจุบัน เช่น
- เทคโนโลยีที่พัฒนาแบบเลขชี้กระโดด ทำให้เราได้เห็นราคาของ 1GB ลดลงจาก 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 0.10 ดอลลาร์สหรัฐ
- เรื่องข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่ง ธุรกิจใดที่มีข้อมูลจะเป็นธุรกิจที่มีค่า เช่น เฟซบุ๊ก ได้ซื้อ WhatsApp เพื่อเพิ่มฐานช้อมูลผู้ใช้ Butterfly IQ ซึ่งเป็นเครื่องขนาดใส่กระเป๋าที่สามารถเชื่อมโยงกับมือถือได้ โดยสามารถสแกนเพื่อตรวจสอบเนื้องอก และโรคอื่นๆ ในร่างกายเรา
- เครื่องยนต์อัจฉริยะ (Machine intelligence) เช่น เทคโนโลยีจดจำใบหน้ากำลังพัฒนาไปไกลถึงขนาดอ่านความรู้สึกของคนได้ ซึ่งช่วยพัฒนาการให้บริการทางธุรกิจ สุขภาพ ประกันภัย และค้าปลีก ฯลฯ
- หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีด้านนี้จะปฏิวัติระบบขนส่ง เช่น รถยนต์ การเดินเรือ ขนส่งมวลชน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเลือกนวัตกรรมที่ถูก?
Rowan ให้คำแนะนำว่า ธุรกิจควรที่จะใส่ใจ หรือมีแนวความคิดที่รอบคอบ เช่น
- ต้องเน้นเรื่องการให้บริการ ไม่ควรเน้นตัวสินค้า แต่ให้เน้นการให้บริการกับลูกค้า
- ต้องตื่นตัวตลอดเวลา เช่น Qantas สายการบินของออสเตรเลียใช้ฐานลูกค้าในลอยัลตี้โปรแกรมสร้างธุรกิจใหม่ๆ ทำให้เกิดรายได้ 1 ใน 3 ของบริษัท
- โฟกัสในระบบนิเวศ (ecosystem) ธุรกิจที่สามารถสร้างระบบนิเวศ หรือชุมชนของตัวเองจะมีโอกาสประสบความสำเร็จ
- เน้นการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูล
- โฟกัสไปยังลูกค้า ต้องไม่พัฒนาตัวผลิตภัณฑ์จนลืมความสำคัญของลูกค้า
- ต้องทดลองสิ่งใหม่ๆ เสมอ
โดยรวมแล้ว Rowan บอกว่า ความเสี่ยงของธุรกิจส่วนมากเกิดจากความพึงพอใจในสิ่งที่ทำอยู่ว่าดีแล้ว เช่น บริษัท AT&T มองไม่เห็นความสำคัญของ Skype โดยบอกว่าเป็นของเด็กเล่น บริษัทผลิตภาพยนต์ Time Warner มอง Netflix เป็นแค่ผู้เล่นตัวเล็กๆ ที่ไม่มีพิษมีภัย