สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ศูนย์กลางบริการทางการแพทย์ของสหรัฐ หรือ CMS หน่วยงานด้านสุขภาพของสหรัฐ เปิดเผยผ่านรายงานว่า สหรัฐจะใช้ง่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 5.5% ต่อปี ในช่วง 10 ปี นับจากปี 2018 ซึ่งจะส่งผลให้ต้องใช้จ่ายด้านสุขภาพเกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2027 เนื่องจากผู้คนมีความต้องการใช้บริการทางการแพทย์มากขึ้น
ทั้งนี้ การปรับขึ้นของรายได้ อัตราการจ้างงานที่ดีขึ้น จำนวนผู้คนที่ได้รับสิทธิจากภาครัฐในการใช้บริการทางการแพทย์ที่มากขึ้น รวมถึงการที่รัฐบาลมีโปรแกรมประกันสุขภาพผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้พิการ เป็นเหตุผลที่ทำให้การใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นเป็น 19.4% ต่อมูลค่าเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมในปี 2027
ขณะที่ปี 2017 สหรัฐมีการใช้จ่ายด้านสุขภาพ 17.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยหากนับเฉพาะการใช้จ่ายบริการทางการแพทย์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7.4% ต่อปี ในช่วง 10 ปีต่อจากนี้
จากตัวเลขทั้งหมดที่ประเมินออกมานี้ หากดูในส่วนของ Medicaid ซึ่งเป็นโปรแกรมประกันของรัฐบาลสำหรับชาวอเมริกันผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งแผนประกันสุขภาพของภาคเอกชน คาดว่าจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 5.5% ต่อปี และ 4.8% ต่อปีตามลำดับ ขณะที่ปีนี้ CMS คาดว่า จะมียอดผู้ลงทะเบียนใช้ประกันสุขภาพของรัฐเพิ่มขึ้น 2.9%
สำหรับการใช้จ่ายเกี่ยวกับยา คาดว่าจะเติบโต 5.6% ต่อปี ระหว่างปี 2018-2027 เนื่องจากนายจ้างและผู้ประกันจะผลักดันให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังรักษาบริการด้วยตัวยาที่ดีขึ้น อีกทั้งจะมียาใหม่ๆ ราคาแพงเข้าสู่ตลาด ส่วนการใช้จ่ายในโรงพยาบาล คาดว่าจะเติบโต 5.6% ต่อปีเช่นกัน
ปี 2027 นั้น คาดว่า รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะให้เงินสนับสนุน 47% ของการใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2017 ที่มีสัดส่วน 45%
สำหรับการคาดการณ์ทั้งหมดที่ CMS ทำนี้ อยู่บนพื้นฐานกฎหมายปัจจุบันและไม่ได้คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต