Fund Comment มุมมองตลาดตราสารหนี้ มกราคม 2019

Fund Comment มุมมองตลาดตราสารหนี้ มกราคม 2019

มุมมองตลาดตราสารหนี้

ตลาดตราสารหนี้ไทยในเดือน ม.ค. มีการเคลื่อนไหวอย่างผันผวน โดยราคาตราสารหนี้ปรับตัวลดลงในช่วงแรกของเดือนจากกระแสเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างตราสารทุนอีกครั้ง หลังจากผลการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีความคืบหน้าเชิงบวก รวมทั้งนักลงทุนยังตอบรับรายงานการประชุมของ FED ครั้งสุดท้ายของปี 2018 ที่ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทรงอยู่ในระดับต่ำและภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งเดือนหลัง ตลาดตราสารหนี้ไทยกลับมามีทิศทางบวกอีกครั้งจากกระแสความต้องการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำที่เพิ่มขึ้นจากความกังวลของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังการปิดหน่วยงานรัฐบาลมีความยืดเยื้อออกไปจนกินระยะเวลายาวนานเป็นประวัติการณ์ และผลการประชุมของ FED ครั้งแรกของปี 2019 ที่มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% -2.50%  ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมแถลงการณ์ในเชิง Dovish มากขึ้น ที่ระบุว่า คณะกรรมการฯ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปจนกว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีทิศทางการขยายตัวที่ชัดเจนมากขึ้น และเตรียมทบทวนแผนการปรับลดงบดุลของ FED ที่ดำเนินการมานับตั้งแต่ปี 2017

ด้านปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค. อยู่ที่ +0.27%  ชะลอตัวลงจากระดับ +0.36% ในเดือนก่อนจากผลของราคาสินค้าพลังงานและผักผลไม้ที่ลดลง ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย(กนง.)ครั้งที่ 1/2019  มีมติ 4:2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับตลาดที่คาดว่า กนง.จะมีมติเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องแม้มีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำจากราคาสินค้าพลังงานที่ทรงตัวในระดับต่ำ  ส่วนที่คณะกรรมการ 2 ท่านเห็นว่า เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวที่ใกล้เคียงกับระดับศักยภาพ การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลาย รวมทั้ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินและเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต

แนวโน้มตราสารหนี้ไทยในอนาคต คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยจะยังเคลื่อนไหวอย่างผันผวนตามปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามา โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การเลือกตั้งทั่วไปของไทย ปัญหา Brexit ที่ยังคงมีความไม่แน่นอน  และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักของโลก ด้านการดำเนินนโยบายการเงินของไทย  กองทุนบัวหลวงยังคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยภายนอกประเทศทั้งเรื่องปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว