กิจกรรมภาคบริการสหรัฐเดือน มี.ค. ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน

กิจกรรมภาคบริการสหรัฐเดือน มี.ค. ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กิจกรรมภาคบริการของสหรัฐ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ขณะที่การจ่ายเงินเดือนของภาคเอกชนเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ เป็นการตอกย้ำว่า สหรัฐสูญเสียโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ เป็นแรงสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเปลี่ยนท่าทีระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

สถาบันด้านการจัดการอุปทาน (ISM) ออกมาระบุว่า ดัชนีกิจกรรมที่ไม่ได้เกิดจากการผลิตในเดือน มี.ค. อยู่ที่ 56.1 เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2017 อย่างไรก็ตามดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนว่ากลุ่มธุรกิจบริการยังขยายตัวอยู่ ซึ่งภาคบริการมีสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ

เมื่อเดือนที่ผ่านมากิจกรรมภาคบริการชะลอตัวอย่างมาก สะท้อนจากการลดลงถึง 7.3 จุดของดัชนีย่อยในภาคการผลิต โดยกิจกรรมที่ลดลงเป็นผลจากการลดลงของยอดส่งออกใหม่ อย่างไรก็ตามการจ้างงานในภาคบริการยังเพิ่มขึ้นอยู่ แต่หลายอุตสาหกรรมเชื่อว่า สินค้าคงคลังของพวกเขามีสูงเกินไป จึงเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มการผลิต

สถาบัน ISM ระบุว่า ธุรกิจภาคบริการโดยรวมยังคงมองสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจดีอยู่ แต่พวกเขายังมีความกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานและข้อจำกัดในการขยายกำลังการผลิต  โดยภาคบริการประกอบด้วย 16 อุตสาหกรรม อาทิ สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ การเงิน ประกัน บริการสุขภาพ การช่วยเหลือทางสังคม ข้อมูล บริการที่ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะ งานวิทยาศาสตร์ และเทคนิค เป็นต้น ซึ่งก็รายงานยอดการเติบโตเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีเพียง 2 อุตสาหกรรมภาคบริการที่หดตัว ได้แก่ บริการการศึกษา และค้าปลีก

ขณะที่สถาบันวิจัย ADP ร่วมมือกับนักวิเคราะห์มูดี้ส์ ออกรายงานเกี่ยวกับการจ้างงานของสหรัฐ โดยระบุว่า การจ่ายเงินเดือนของภาคเอกชนออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนการเติบโตของการจ้างงานก็ชะลอตัวจากปีที่ผ่านมา