ซีเอ็นบีซี ได้ทำการสำรวจผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินทั่วโลกเกี่ยวกับกรณีที่อังกฤษจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(Brexit) โดยผลสำรวจพบว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่า การทำข้อตกลง Brexit ไม่น่าจะแก้ไขได้เสร็จทันภายในสิ้นเดือน ต.ค. และสหภาพยุโรป (อียู) คงต้องเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปอีก
ทั้งนี้ อังกฤษไม่สามารถออกจากสหภาพยุโรปโดยมีข้อตกลงได้ในช่วงสิ้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อังกฤษจึงวางเป้าหมายใหม่ว่าจะออกจากอียูภายในวันที่ 31 ต.ค. นี้ แต่การถอนตัวแบบมีข้อตกลงก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากทางฝ่ายกฎหมายของอังกฤษอยู่ดี
ขณะที่ สภาประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินซีเอ็นบีซี ซึ่งเป็นผู้บริหารด้านการเงินที่เป็นตัวแทนมาจากบริษัทมหาชนและบริษัทจำกัดขนาดใหญ่ทั่วโลก ที่มีมูลค่าตลาดรวมกันกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ร่วมกันทำแบบสำรวจเกี่ยวกับการขยายเส้นตาย Brexit แบบมีข้อตกลงออกไป ปรากฎว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารด้านการเงิน 35.6% มองว่า การขยายเส้นตายของ Brexit ออกไปอีก เป็นทางออกที่มีความเป็นไปได้ที่สุด ส่วนอีก 20% มองว่า อังกฤษจะทำประชามติอีก 26.7% มองว่า อังกฤษจะออกจากอียูตามเส้นตายเดือน ต.ค. ได้แบบมีข้อตกลง
ทั้งนี้ มีเพียง 2.2% เท่านั้นที่เชื่อว่า Brexit จะเกิดขึ้นแน่นอนในสิ้นเดือน ต.ค. แบบไม่มีข้อตกลงใดๆ ซึ่งถือเป็นมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อเดือน ก.พ. ที่มีถึง 40.7% ที่เชื่อว่าจะเกิด Brexit แบบไม่มีเงื่อนไข
เมื่อแยกความคิดเห็นเป็นรายภูมิภาค พบว่า ผู้บริหารระดับสูงจากฝั่งเอเชีย 60% เชื่อว่า อังกฤษต้องกลับไปทำประชามติอีกครั้งเพื่อสรุปเกี่ยวกับ Brexit เมื่อเทียบกับผู้บริหารฝ่ายการเงินในสหรัฐที่มีเพียง 10% และผู้บริหารจาก EMEA หรือยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา ที่มีเพียง 6.7% เท่านั้นที่เชื่อว่าอังกฤษต้องกลับไปทำประชามติอีกครั้ง