สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI  ซึ่งเป็นเครื่องชี้อัตราเงินเฟ้อของจีนปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เป็นผลจากปริมาณผัก เนื้อหมู และผลไม้ลดลงกดดันให้ราคาอาหารปรับเพิ่มขึ้น

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ออกมาเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน เม.ย. โดยระบุว่าเติบโต 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดือน เม.ย. ปี 2018 เป็นไปตามแนวโน้มที่ตลาดคาดการณ์ โดยอัตรานี้เป็นการเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือน มี.ค. ซึ่งเติบโต 2.3% และเดือน ก.พ. ที่เติบโต 1.5%

เมื่อพิจารณาเทียบดัชนีราคาผู้บริโภคแบบเดือนต่อเดือน พบว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือน มี.ค. ขณะที่เดือน มี.ค. เคยลดลง 0.4% จากเดือน ก.พ.

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเร่งตัวขึ้นมาจากราคาอาหาร ซึ่งมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักในดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน ปรับเพิ่มขึ้นถึง 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ ราคาผักและผลไม้ เพิ่มขึ้น 17.4% และ 11.9% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากปริมาณออกสู่ตลาดที่น้อยลง ขณะที่ราคาเนื้อหมู ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดหมูแอฟริกา ที่ทำให้จำนวนหมูในจีนลดลง โดยราคาเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 14.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยนี้มีผลกระทบ 0.31% ในดัชนีราคาผู้บริโภค

Wang Junxun เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของจีน กล่าวว่า ราคาเนื้อหมูยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อ และอาจจะทำลายสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อไตรมาสที่ 4 ปี 2016