รายงานของ Allianz Global Investors ระบุว่า จะมีสิ่งต่างๆ นับหลายหมื่นล้านชิ้นที่จะเชื่อมโยงกันเป็นอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ภายในปี 2020
การใช้เทคโนโลยีที่พึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จะทำให้เศรษฐกิจมีการเติบโตนับเท่าตัวในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศภายในปี 2035
เอไอจะผลักดันจีดีพีของโลกให้โต 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 ทำให้กลายเป็นโอกาสทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบันของเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง
เอไอไม่ได้เป็นเรื่องเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่เอไอเป็นพลังที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (disrupt) ในแทบทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโฆษณา การบิน การเกษตร รถยนต์ การศึกษา พลังงาน การเงิน กฎหมาย สื่อ การผลิต ค้าปลีก เทคโนโลยี การขนส่ง สุขภาพ
บริษัทเหล่านี้คือ Square, Tesla, LendingTree, Amazon.com, Deere & Co
นอกจากนี้ ยังมีเอไอแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นระบบอัตโนมัติที่ฉลาด (Intelligence Automation) ระบบการรับรู้ (Cognitive Systems) การเรียนรู้ในเชิงลึก (Deep Learning) หุ่นยนต์ (Robotics) เครือข่ายสังคม (Social) และการมองผ่านเครื่อง(Machine Vision)
ตัวอย่างของบริษัทที่มีแอปพลิเคชันสำหรับเอไอ เช่น
Facebook, ServiceNow, Salesforce.com, Yelp, Twilio
เอไอโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กดาต้า คลาวด์ อินเทอร์เน็ตสำหรับทุกสิ่ง และระบบโมบาย
บริษัทที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของเอไอ เช่น ON Semi., PTC, Broadcom, Microchip Tech., NVIDIA
จะเห็นได้ว่า เอไอ มีหลายมิติ ทั้งในการเสริมสร้างธุรกิจที่มีอยู่แล้วให้ประสิทธิภาพ หรือมีค่ามากขึ้น มีเอไอแอปพลิเคชัน และเอไอโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนในยุคดิจิทัลที่เปิดกว้างและมีศักยภาพที่ล้นเหลือ