สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เมืองซานฟรานซิสโกได้ลงมติ 8 ต่อ 1 เสียง แบนไม่ให้บุคลากรในเมืองซื้อและใช้งานเทคโนโลยีจดจำใบหน้าในเมือง เพื่อควบคุมเครื่องมือที่บริษัทในซิลิคอน วัลเลย์ พัฒนา
คณะกรรมการของเมืองซานฟรานซิสโก ยังบอกอีกว่า จะมีคำสั่งให้หน่วยงานในเมืองนำส่งนโยบายการใช้เทคโนโลยีเฝ้าระวังเพื่อตรวจค้นในพื้นที่สาธารณะมาให้ด้วย โดยจะมีการลงมติครั้งสุดท้ายสัปดาห์หน้าหลังจากลงมติไปแล้ว 2 ครั้ง
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ซานฟรานซิสโกกลายเป็นเมืองหน้าด่านของสหรัฐที่ออกมาสะท้อนถึงความไม่พอใจในการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐต่างก็ใช้เทคโนโลยีนี้มาเป็นปีแล้ว จนกระทั่งปัจจุบันกลายเป็นเทคโนโลยีที่มีพลังอำนาจมหาศาลในการขับเคลื่อนการเติบโตของคลาวด์ คอมพิวติ้ง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
“เราต้องปกป้องสาธารณชนจากการใช้งานเทคโนโลยีในทางที่ผิดที่อาจเกิดขึ้นได้” Aaron Peskin หัวหน้างานของเมือง ซึ่งเป็นแกนนำในการแบน กล่าวก่อนการประชุมลงคะแนนเสียง
เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า นี่ไม่ใช่นโยบายที่มีอคติต่อเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีนี้ยังได้รับอนุญาตให้ใช้ในเครื่องมือเฝ้าระวังต่างๆ ต่อไป เช่น กล้องวงจรปิดเพื่อดูแลความปลอภัย เพียงแต่ต้องการออกแนวทางมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการใช้เทคโนโลยีนี้ตามแนวทางที่เข้มงวด และในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น