นิว สเตรทไทม์ส รายงานว่า ปีนังอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิต 8,800 ล้านริงกิต ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 768% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา

สำหรับการอนุมัติลงทุนทั้งหมดนั้น  8,470 ล้านริงกิต เป็นเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่เข้ามาลงทุนในภาคการผลิต เพิ่มขึ้น 1,360% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 42% ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดที่มาลงทุนในมาเลเซีย โดยเงินลงทุนในภาคการผลิตหลักๆ ในปีนัง ครอบคลุมโครงการของบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี และ จาบิล เซอร์กิต

Chow Kon Yeow หัวหน้าคณะรัฐมนตรี มาเลเซีย กล่าวว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. ปีนังอนุมัติโครงการลงทุนไปทั้งหมด 41 โครงการ มูลค่าประมาณ 8,850 ล้านริงกิต คิดเป็น 35% ของยอดอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิตทั้งหมดของมาเลเซีย โดยคาดว่า การอนุมัติเงินลงทุนทั้งหมดในไตรมาสแรกจะช่วยสร้างงานใหม่ในมาเลเซียถึง 10,073 งาน

“ปีนังยังคงเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสำหรับการลงทุนในภาคการผลิต ท่ามกลางการต่อสู้กันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับการค้าโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต” Chow กล่าว

Chow กล่าวอีกว่า การมีห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง ทั้งยังมีความแข็งแกร่งด้านบุคลากรที่มีความสามารถ มีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐ ทำให้นักลงทุนเลือกปีนังเป็นจุดหมายสำหรับการลงทุน ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ แม้จะสร้างความไม่แน่นอนให้เศรษฐกิจมหภาค แต่ก็ยังมีโอกาสท่ามกลางสภาพแวล้อมที่ท้าทายนี้ เพราะผู้ผลิตต่างก็ไม่ต้องการเป็นเหยื่อนสงครามการค้า พยายามย้ายห่วงโซ่อุปทานไปอยู่ในประเทศอื่นๆ ซึ่งปีนังก็วางตำแหน่งของตัวเองที่จะคว้าโอกาสจากโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เปลี่ยนนี้