ไชน่าเดลี รายงานว่า จากข้อมูลในรายงาน Global Wealth Migration Review 2019 ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัย New World Wealth ระบุว่า ความมั่งคั่งของครัวเรือนจีนจะขยับเป็น 51.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 เพิ่มขึ้นถึง 120% จากปี 2018
ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนเป็นตลาดที่ดำเนินการด้านความมั่งคั่งได้ดีที่สุด โดยความมั่งคั่งส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นถึง 130% เป็น 23.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ส่งผลให้จีนขึ้นแท่นเป็นประเทศอันดับ 2 ใน 10 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก
ในรายงานฉบับล่าสุด Global Wealth Migration Review 2019 ชี้ว่า ความมั่งคั่งส่วนบุคคลทั่วโลก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งมีวิกฤตการเงิน โดยในปี 2018 ความมั่งคั่งส่วนบุคคลทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 204 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 26% จากปี 2008
สำหรับ 10 ประเทศที่มีความมั่งคั่งส่วนบุคคลมากที่สุดในโลก ได้แก่ สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี อินเดีย ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งคิดเป็น 74% ของความมั่งคั่งส่วนบุคคลทั่วโลกในปี 2018
การเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเอเชียนั้นเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ความมั่งคั่งส่วนบุคคลเติบโต โดยคาดว่าจะขยับเป็น 291 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028 ขณะที่ความมั่งคั่งส่วนบุคคลในจีนและอินเดียจะเติบโตด้วยตัวเลข 3 หลักในทศวรรษหน้า
ขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศพัฒนาแล้วส่งผลให้การเติบโตของความมั่งคั่งส่วนบุคคลในสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี จะชะลอตัวลงเหลือ 10% ใน 10 ปีข้างหน้า และการเติบโตจะสูงกว่าเล็กน้อยในอเมริกาเหนือ
อย่างไรก็ดี ความมั่งคั่งส่วนบุคคลในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้น 80% ในอนาคต และจะทำให้ออสเตรเลียขยับขึ้นเป็นประเทศอันดับ 5 จากอันดับ 7 ของ10 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก