สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้ในการทหารทั่วโลกเวลานี้ มีการผลิตในจีนเป็นหลัก โดยคาดว่า ขนาดของตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้เพื่อการทหารจะมียอดขายสูงถึง 3 เท่าตัวเป็น 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ผลศึกษาของนักวิเคราะห์ด้านการบินและอวกาศ บริษัท Teal Group คาดการณ์ว่า ปีนี้ตลาดโดรนที่ไม่ใช่เพื่อการทหาร จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะได้รับประโยชน์จากการที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ เปิดน่านฟ้าให้ รวมทั้งการใช้งานเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์
รายงานนี้ออกมาท่ามกลาง ความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งบริษัทเอกชนสหรัฐ จากกรณีที่จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว รวมถึงจัดเก็บภาพที่ถ่ายด้วยโดรนของจีนได้
Phil Finnegan นักวิเคราะห์ของ Teal Group กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตในจีน ผลิตโดรนคิดเป็น 3 ใน 4 ของโดรนทั้งหมดที่อยู่ในตลาดโดรนเพื่อการพาณิชย์และการบริโภคของโลก เมื่อนับตามจำนวนชิ้นของโดรน
เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐออกมาเตือนบริษัทสหรัฐถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับข้อมูลบริษัทที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โดรนที่ผลิตในจีน โดยมีบริษัท DJI ผู้ผลิตโดรนจีนเป็นผู้ผลิตรายหลักที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ออกมาโต้แย้งว่า ประเด็นข้อกังวลเรื่องความปลอดภัยนี้เป็นข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ และการเข้าใจผิด พร้อมระบุว่า ผู้บริโภคที่ใช้งานโดรนเป็นผู้ควบคุมข้อมูลทั้งหมดโดยสมบูรณ์แบบ
ผลการศึกษาในครั้งนี้ ยังระบุอีกว่า ผู้นำการใช้งานตลาดโดรนนั้นเป็นการใช้โดรนเพื่อตรวจสอบในภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น การก่อสร้าง พลังงาน และเหมืองแร่ โดยพวกเขาใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่และเส้นทางการส่ง ส่วนอันดับรองลงมา มีการใช้งานในภาคเกษตรเพื่อพ่นสารต่างๆ ให้พืช รวมถึงใช้วิเคราะห์พื้นที่ เป็นต้น