ซีเอ็นบีซี รายงานว่า จากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เกิดขึ้น ส่งผลให้บริษัทเอเชียบางแห่งตัดสินใจย้ายฐานผลิตกลับประเทศตัวเอง รวมทั้งตัดสินใจย้ายฐานผลิตออกจากจีน ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานในปัจจุบัน
นักวิเคราะห์จาก โนมูระ ในญี่ปุ่น กล่าวว่า แนวโน้มของบริษัทในเอเชียที่ย้ายฐานการผลิตกลับประเทศตัวเองนั้นกำลังมาแรง โดยได้รับความนิยมที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นและไต้หวัน ซึ่งกลุ่มนี้มีการย้ายฐานผลิตกลับถิ่นฐานเพื่อหลีกเลี่ยงจากกรณีที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตราที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน มีต่อเนื่องมายาวนานเกินกว่า 1 ปี โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันไปแล้วหลายรอบ ซึ่งรอบล่าสุดคือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา และผลของสงครามการค้าครั้งนี้ ดูเหมือนว่า ไต้หวันจะได้ประโยชน์ที่สุด จากการที่บริษัทไต้หวันย้ายฐานผลิตกลับสู่ภูมิลำเนาของตัวเอง
เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์ เคยรายงานตัวเลขออกมาเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน ให้ข้อมูลว่ามีบริษัทไต้หวันประมาณ 40 บริษัทที่พิจารณาย้ายโรงงานของตัวเองที่อยู่ในจีนกลับมาที่ไต้หวัน
ขณะที่ไต้หวันจัดแคมเปญสนับสนุนการลงทุนในไต้หวัน ชื่อว่า “Invest Taiwan” มีเป้าหมายดึงดูดให้บริษัทไต้หวันกลับมาลงทุนในไต้หวันเอง ซึ่งภายใต้โปรแกรมนี้บริษัทจะได้รับสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ สำหรับต้นทุนที่ต้องจ่ายเพื่อย้ายฐานผลิตกลับมา
สำหรับ ผู้ผลิตแผงวงจรอย่าง Flexium และบริษัทคอมพิวเตอร์ Quanta เป็นตัวอย่างของบริษัทไต้หวันที่อยู่ระหว่างย้ายฐานผลิตกลับมา ส่วน SK Hynix ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ก็กำลังพิจารณาย้ายฐานผลิตชิปกลับไปที่เกาหลีใต้ ด้านบริษัทญี่ปุ่น ได้แก่ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก จากเดิมโรงงานตั้งอยู่ในต้าเหลียน ประเทศจีน ก็ย้ายฐานผลิตกลับมาที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น หรือผู้ผลิตเครื่องยนต์ โตชิบา แมชชีน และโคมัตสุ ที่กำลังวางแผนย้ายฐานผลิตอยู่เช่นกัน