จัดพอร์ตเตรียมเกษียณแบบไหน ไม่ให้หลงทาง
โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP®
ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน
BF Knowledge Center
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมอายุยืน ที่มีประชากรอายุเกิน 60ปี เป็นสัดส่วนที่สูงระดับต้นๆ ของประเทศกลุ่มกำลังพัฒนา คนไทยเองก็ตื่นตัวเรื่องการเตรียมพร้อมเพื่อเกษียณของตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะวัยทำงานที่เก็บออมเงินในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และมักมีคำถามว่าควรจัดสัดส่วนแบบไหน
คำตอบก็คือ จะดูว่าจะจัดพอร์ต RMF แบบไหน ขอให้เริ่มต้นที่แหล่งเก็บเงินอื่นที่ไม่ใช่ RMF ก่อน เพราะเงินออมเพื่อใช้หลังเกษียณนั้น RMF เป็นแค่ส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ วัยทำงาน อายุ 20-60 ปี มีเวลาประมาณ 40ปี จากนั้นใช้ชีวิตหลังเกษียณอีก 20-30ปี โดยประมาณ แสดงว่าเวลาใช้เงินหลังเกษียณไม่ได้ต่างจากก่อนเกษียณเท่าไรนัก
ขณะที่ RMF เก็บได้มีข้อจำกัดแค่ 15% ของรายได้และเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ประกันบำนาญ ต้องไม่เกิน 5แสนบาท แปลว่า ถ้าคิดจะใช้ชีวิตหลังเกษียณให้เพียงพอ เก็บแค่ PVD หรือ RMF ไม่น่าพอแล้ว
ดังนั้น ก่อนอื่น ต้องจัดการเช็คทรัพย์สินเลย ว่ามีเงินเก็บที่ไหนบ้าง เงินเก็บเหล่านั้น ก้อนไหนเป็นเงินเย็น ไม่มีเป้าหมายอื่น ไม่ต้องสำรองไว้ใช้อย่างอื่น ให้ถือว่าเป็นเงินเพื่อเกษียณได้
สำหรับตัวอย่างเงินเก็บที่นอกเหนือจากเงิน PVD กบข. RMF ได้แก่ มีเงินเก็บในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ไม่ได้กะจะใช้อะไรหรือไม่ เมื่อลงทุนยาวๆ ครบกำหนดก็ลงทุนต่อไม่ได้ถอน ถ้าเป็นแบนี้ก็ถือว่าใช่เงินเพื่อเกษียณ หรือลองนึกดูว่า มีสลากออมสิน พันธบัตร หุ้นกู้ เงินฝากอะไรหรือไม่ ที่เข้าเงื่อนไขนี้
นอกจากนี้ต้องพิจารณาด้วยว่า มีกองทุนรวมที่ซื้อเองซึ่งไม่ใช่ RMF LTF กองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้ หรือหุ้น ที่เราลงทุนตรง มีพอร์ตลงทุนที่ตั้งใจเก็บไว้ยาวๆ ไม่มีเป้าหมายใช้เงินก้อนนี้หรือไม่ เพราะเงินเหล่านี้จริงๆ ก็คือเงินเพื่อเกษียณของเรานั่นเอง
เมื่อรวบรวมทั้งหมดได้แล้ว คราวนี้ก็มาจัดพอร์ตเตรียมเกษียณกัน ทีนี้ก็จะง่ายแล้ว โดยอายุน้อยลงทุนหุ้นมาก อายุมากลงทุนหุ้นให้น้อยลง
ยกตัวอย่างง่ายๆ อายุ 50ปีแล้ว อีกแค่ 10ปีจะเกษียณตั้งใจว่าจะลงทุนหุ้นไม่เกิน 30% ที่เหลือเป็นตราสารหนี้ ก็ให้ไปดูก่อนเลยว่า มีพอร์ตรวมเป็นเงินเท่าไร ใน LTF RMF กองหุ้น หรือกองผสมที่เน้นหุ้น มีพอร์ตหุ้นลงทุนตรงเท่าไร เงินใน PVD มีแบบเลือกหุ้นไว้หรือไม่ นับรวมๆ ว่าถึง 30% หรือยัง ถ้ายังก็เติมโดยเลือก หรือสับเปลี่ยน RMF มากองทุนหุ้น ให้พอร์ตรวมครบ 30% ที่เหลือก็ไปตราสารหนี้
ถ้าครบแล้วและมีเกิน 30% แสดงว่าพอร์ตโดยรวมเรามีหุ้นมากเกินไปไป มากกว่าที่ตั้งใจไว้ ก็ให้ลองดู ลองปรับ สับเปลี่ยน RMF หุ้นมาไว้ตราสารหนี้ก่อนเลย ตรงนี้ทำเพื่อปรับสัดส่วนลดความเสี่ยงโดยรวม
หลักสำคัญ คือ หาทรัพย์สินให้ครบ หาพอร์ตที่เหมาะสม และสุดท้ายเกลี่ยการลงทุนให้ตามพอร์ตเป้าหมาย ง่ายๆ แค่ตั้งหลักให้ถูก