ไชน่าเดลี รายงานว่า เวิลด์ ทัวริสซึ่ม อลิอันซ์ และสถาบันการท่องเที่ยวจีน จัดทำรายงานการท่องเที่ยว โดยระบุว่า ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในจีนฟื้นตัวกลับมาแล้ว หลังจากที่ลดลงตั้งแต่ปี 2015 อันเป็นผลมาจาก ปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ นโยบายวีซ่าที่เข้มงวด สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวที่ไม่สมบูรณ์ และแพ็กเกจทัวร์ที่นำเสนอมีรูปแบบเดียว
ก่อนหน้านี้ สถาบันการท่องเที่ยวจีน ระบุว่า ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจีนครึ่งปีแรกอยู่ที่ 73 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นับจากปี 2009-2018 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งเริ่มลดลงในปี 2015 และลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ในรายงาน ระบุว่า ปี 2018 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวจีน ทำสถิติสูงสุดด้วยจำนวน 14 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ 10 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจีน หลักๆ มาจากเขตปกครองพิเศษ ฮ่องกง มาเก๊า โดยปีที่ผ่านมากลุ่มนี้คิดเป็นมากกว่า 74% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าจีนทั้งหมด ขณะที่ 22% มาจากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐ
จุดหมายท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง จัตุรัสเทียนอันเหมิน และพระราชวังฤดูร้อนในปักกิ่ง เดอะ บัน ในเซี่ยงไฮ้ พิพิธภัณฑ์สุสานจักรพรรดิ์จิ๋นซีฮ่องเต้ในมณฑลฉ่านซี