BF Economic Research
ภายหลังจากเมื่อวานนี้ที่ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยว่าจะไม่มีการเจรจาทางการค้ารอบ 2 (Phase-2 Deal) จนกว่าจะเลือกตั้ง ในวันนี้ (เวลาท้องถิ่น 11:30 น.ของวันที่ 15 ม.ค.) สหรัฐฯ และจีน ก็ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้จัดพิธีลงนามดังกล่าวที่ทำเนียบขาว และได้เชิญกลุ่มนักธุรกิจของสหรัฐฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของจีนและสหรัฐฯเข้าร่วมในพิธีด้วย
จากข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งมีจำนวน 86 หน้า โดยสรุปแล้ว
- สหรัฐฯ จะปรับลดภาษีลงครึ่งหนึ่งจากอัตรา 15% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ และชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติม
- สหรัฐฯ จะยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ฯ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีก็ต่อเมื่อสหรัฐฯและจีนมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสสอง
- จีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นจำนวนมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อลดตัวเลขการขาดดุลทางการค้าของสหรัฐฯต่อจีนซึ่งขาดดุลเป็นจำนวนเงิน 420,000 ล้านดอลลาร์ฯ เมื่อปี 2018 โดยในรายงานอ้างอิงถึงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเจรจา ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้าที่ทางจีนสัญญาว่าจะเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ ประกอบด้วย สินค้าภาคการผลิตมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์ฯ, สินด้านด้านพลังงานมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ฯ, สินค้าภาคการเกษตรมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์ฯ รวมถึงการอุดหนุนภาคการบริการสหรัฐฯเพิ่มอีก 35,000 ล้านดอลลาร์ฯ
- ทั้งนี้ จากการให้ข้อมูลของรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ข้อตกลงการค้าเฟสแรก จีนตกลงที่จะออกกฎหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และให้คำมั่นสัญญาต่อบริษัทสหรัฐฯว่าจะไม่มีการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยีอีกต่อไป เขากล่าวว่า Phase-1 Deal นี้เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยี ธุรกิจ และแรงงานอเมริกัน ขณะเดียวกัน ข้อตกลงการค้าเฟสแรกยังเปิดทางให้สถาบันการเงินสหรัฐฯสามารถเข้าสู่ตลาดของจีน และยุติการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในธุรกิจด้านเวชภัณฑ์
- ด้านรองนายกรัฐมนตรีของจีน หลิว เหอ แสดงความเห็นว่า ข้อตกลงการค้าและเศรษฐกิจเฟสแรกนี้ เป็นมากกว่าข้อตกลงทางเศรษฐกิจ และนำมาซึ่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองทั่วโลก ขณะเดียวกันข้อตกลงการค้าเฟสแรกยังมีนัยสำคัญต่อทั้งเศรษฐกิจและการเมือง นอกจากนี้รองนายกฯจีนได้กล่าวว่า เขามองว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัวสูงกว่าระดับ 0% ในปี 2562 และคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือนม.ค.จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ดังนั้นจากเนื้อความของข่าวเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ ค่อนข้างจะเพิ่มโทนบวกกว่าเมื่อวาน คือ สหรัฐฯไม่ได้ปิดความหวังต่อการเจรจาในรอบต่อไปเสียทีเดียว ทำให้ตลาดสหรัฐฯกลับมาปิดบวกได้ที่ 29,030.22 (+90.55 ) จุด สำหรับ DJIA
- ข่าวการลงนามระหว่างสหรัฐฯ และจีนนี้ กลบข่าวถอดถอน ปธน. สหรัฐฯ ทั้งที่เป็นวันเดียวกันกับที่ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ยื่นญัตติการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้กับวุฒิสภาอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้วุฒิสภาสามารถเริ่มกระบวนการพิจารณาคดี
- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แต่งตั้ง ผู้จัดการ 7 คนของสภาผู้แทนราษฎร (House Manager) ซึ่งแต่งตั้งขึ้นใหม่ และจะขึ้นเบิกความคดีของปธน.ทรัมป์ ในกระบวนการพิจารณาของวุฒิสภานั้น ได้นำญัตติดังกล่าวไปส่งมอบให้กับนายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยวุฒิสภาจะรับเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้ (เวลาท้องถิ่น)