BF Economic Research
IMF ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสู่ระดับ 3.3% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 3.4% พร้อมทั้งปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2021 สู่ระดับ 3.4% จากเดิมที่ระดับ 3.6%
ในรายประเทศ IMF ได้ปรับ GDPปี 2020 ของสหรัฐฯ ยุโรป และอินเดียลงจากการประมาณการครั้งก่อน โดยได้เหตุผลดังนี้
- สหรัฐฯ – GDP มีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องในปี 2020-21 ที่ 2.0% และ 1.7% ตามลำดับ (จากปี 2019 ที่ 2.3%) โดยให้เหตุผลว่าแรงหนุนจากการปรับลดภาษีและจากสภาพคล่องทางการเงิน จะค่อยๆลดลง
- ยุโรป – ในปี 2020-2021 จะขยายตัวที่ 1.3% และ 1.4% ตามลำดับ (จากปีก่อนที่ 1.2%) โดยมองว่า การส่งออกที่เริ่ม Bottom Out จะช่วยหนุนเศรษฐกิจในกลุ่มยุโรป
- ญี่ปุ่น – จะขยายตัวที่ 7%ในปี 2020 และ 0.5% ในปี 2021 โดย IMF มองว่าแรงหนุนด้านการคลังที่มีส่วนให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวได้ที่ 1.0% ในปี 2019 จะค่อยๆหายไปในปี 2021
- จีน – จะขยายตัวที่ 6.0% ในปี 2020 และ 5.8% ในปี 2021 ชะลอจากปี 2019 ที่ 6.1% ซึ่งถึงแม้ว่า GDP จะชะลอต่อเนื่อง แต่ IMF ยังมองจีนดีกว่าประมาณการในเดือน ต.ค. 2019 ที่ได้ประมาณการว่า GDP ปี 2020 จะอยู่ที่ 5.8% ทั้งนี้เนื่องจาก IMF มองว่าการบรรลุข้อตกลงระยะที่ 1 หรือ Phase-one Deal มีส่วนลดผลกระทบทางด้านการค้าของจีน
- อินเดีย – จะขยายตัว 5.8% ในปี 2020 (จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 7.0%) โดยได้รับผลกระทบจากสภาพคล่องในประเทศที่หดตัวลงอย่างรุนแรง แต่ก็เห็นว่า การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาด ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่าย และภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน เป็นผลให้ GDPในปี 2021 สามารถฟื้นกลับมาได้ที่ 6.5% ซึ่งแม้ว่าอัตราการขยายตัวจะดีขึ้นในปี 2020-2021 แต่เป็นอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ในเดือนต.ค. 2019 ที่ IMF มองว่าปี 2020-2021 จะโต 7.0% และ 7.4% ตามลำดับ
IMF ตั้งสมมติฐานว่า สหรัฐฯ และจีน จะไม่มีความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น และอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างราบรื่นในสิ้นเดือนนี้