สำนักข่าวซินหัว รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากนิวยอร์กไทม์สว่า สหรัฐฯ มียอดนำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น ท้าทายความคาดหวังของนักการเมืองอเมริกันทั้ง 2 พรรค ที่เมื่อช่วงต้นปีคาดการณ์ว่า ในช่วงการแพร่ระบาดอาจจะทำให้การค้ากับจีนลดลง และในที่สุดก็จะทำให้โรงงานผลิตตางๆ ต้องกลับมาสหรัฐฯ
การเพิ่มขึ้นของยอดนำเข้าเป็นผลพลอยได้อีกอย่างที่เกิดขึ้นช่วงไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด โดยคนอเมริกันใช้จ่ายเงินช่วงที่ต้องหยุดพักผ่อน ชมภาพยนตร์ รับประทานอาหาร ไปจนถึงสินค้าในครัวเรือน เช่น ไฟดวงใหม่สำหรับการทำให้บ้านเป็นสำนักงาน อุปกรณ์ในยิม และของเล่น เพื่อให้เด็กๆ ยังได้รับความบันเทิง
IHS Markit เผยว่า จากข้อมูลการค้า 10 เดือนแรกของปีนี้ที่ได้จากหน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯ สะท้อนว่า คนอเมริกันนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้า หน้ากาก และอุปกรณ์ป้องกันตัวอื่นๆ จากจีนอย่างแข็งแกร่งในช่วงการแพร่ระบาด โดยในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา จีนก็มียอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 46.1% จนทำสถิติสูงสุดที่ 51,980 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ รายงาน ระบุว่า พบสัญญาเล็กน้อยว่าห่วงโซ่อุปทานโลกกำลังกลับสู่สหรัฐฯ ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมากกว่า 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ผลกระทบของการระบาดที่ยืดเยื้อในสหรัฐฯ กลายเป็นส่วนช่วยเสริมตำแหน่งการผลิตของจีน
Mary E. Lovely เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันเศรษฐกิจระหว่างประเทศปีเตอร์สัน กล่าวว่า โดยรวมแล้วการที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวรวดเร็ว และจีนเป็นแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ที่ชาวอเมริกันหันมาใช้ในชวงการแพร่ระบาด มีน้ำหนักมากกว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้น
Jay Foreman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทของเล่น Basic Fun! กล่าวกับนิวยอร์กไทม์สว่า เขาพิจารณาย้ายการดำเนินงานบางส่วนไปเวียดนามหรืออินเดียเหมือนที่ผู้ผลิตของเล่นหลายรายทำ ท่ามกลางช่วงที่มีสงครามการค้าปีที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ยังคงอยู่ในจีนซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด
“จีนยังคงเป็นห่วงโซ่อุปทานการผลิตที่ดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะเมื่อพบว่าจีนสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าใคร” เขา กล่าว