สำนักข่าว Reuters รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กำลังติดตามพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท China Evergrande Group อย่างใกล้ชิด แต่ก็เชื่อว่าจีนมีเครื่องมือที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์นี้ทำให้เกิดวิกฤติเชิงระบบ
Gita Gopinath หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ IMF กล่าวว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนมากในเศรษฐกิจจีน และการที่บริษัท China Evergrande มีโอกาสผิดนัดชำระหนี้อาจมีผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความมั่นคงทางการเงินของจีนได้
Gopinath กล่าวว่า เรากำลังติดตามพัฒนาการในจีนอย่างใกล้ชิด และขอเน้นย้ำว่ามีความจำเป็นต้องปฏิรูปกฎระเบียบเพื่อจัดการกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเราเชื่อว่าจีนมีเครื่องมือและนโยบายที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องนี้กลายไปเป็นวิกฤติเชิงระบบ
ขณะที่ Bank of America ปรับลดประมาณการการเติบโตของจีนเพื่อตอบรับปัญหา China Evergrande ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการระบาดของโควิดรอบใหม่ และการที่ทางการใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดกับธุรกิจในวงกว้าง โดยย ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จีนปีนี้จะเติบโต 8.0% ลดลงที่คาดการณ์ไว้ครั้งก่อนหน้าที่ 8.3% นอกจากนี้ยังหั่นประมาณการ GDP ปี 2022 เหลือ 5.3% จากเดิมมองไว้ 6.2% ด้วย และปรับประมาณการ GDP ปี 2023 เล็กน้อย เหลือ 5.8% จากเดิม 6.0%
ด้าน Goldman Sachs เตือนว่า สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนอาจจะทำให้เกิดความท้าทายด้านนโยบายเศรษฐกิจในปี 2022 เว้นแต่จีนจะมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำกว่า 5-6% มาก โดยภาคอสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน ถูกจับตานับตั้งแต่ China Evergrande เผชิญความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้
Evergrande มีหนี้สินรวม 305,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะต้องชำระคืนตราสารหนี้ 2 ครั้ง ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะไม่สำเร็จ โดยภาระหนี้ทั้งหมดมีสัดส่วนต่ำกว่า 2% ของ GDP เป็นสัญญาณว่าจีนมีสถานะที่จะออกมาป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในวงกว้างได้