Economic Research
การประชุม FOMC เดือนมี.ค. Fed พร้อมขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจัดการเงินเฟ้อ
Key Event การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ FOMC Meeting ประจำเดือนมี.ค. มีมติ 8:1 ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% สู่กรอบ 0.25-0.5% โดยมีคณะกรรมการ 1 ท่านคือ James Bullard ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา St. Louis ไม่เห็นด้วยและมองว่าควรปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.5% ในครั้งนี้
ใจความหลักสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ได้แก่
- คณะกรรมการ FOMC มองว่าประเด็นด้านการบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อคือภารกิจหลักของ Fed โดยในผลการประชุมได้ระบุถึงแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อที่มีมากขึ้นหรือ Broader Price Pressure (อันเป็นผลจาก Supply-Disruption และราคาพลังงาน) พร้อมกันนี้ยังได้ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาอันใกล้ด้วย ขณะที่คณะกรรมการ FOMC ยังคงเห็นว่าการจ้างงานในสหรัฐฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
- ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจออกมาด้วยเช่นกัน โดยอัตราเงินเฟ้อ Core PCE ได้รับการปรับขึ้นอย่างมากที่ 4.1% ในปีนี้ (จากประมาณการเดิมที่ 2.7%) ขณะที่ปรับลด GDP ปีนี้ลงให้ชะลอมาที่ 2.8% จากประมาณการเดิม ที่ 4.0% ด้านอัตราการว่างงานนั้นได้คงประมาณการของปี 2022-2023 ไว้ตามเดิมที่ 3.5% สะท้อนว่าตลาดแรงงานบรรลุเป้าหมายแล้ว และ Fed จะสามารถใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการคุมเงินเฟ้อได้
- ส่วน Dot Plot ประจำเดือน มี.ค. ก็เป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้าง Hawkish กล่าวคือผู้ลงคะแนนโหวตส่วนใหญ่จากทั้งหมด 16 ท่าน มองว่าปีนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะได้รับการปรับขึ้นทั้งหมด 7 ครั้ง สู่กรอบ 1.75-2.0% (คือปรับขึ้นทุกครั้งครั้งละ 25 bps ในการประชุมรวมครั้งนี้ด้วย) และจะปรับขึ้นอีก 4 ครั้ง ครั้งละ 25 bps ในปี 2023 สู่ 2.75-3.0% และจะคงอยู่ในระดับนี้ถึงปี 2024 และเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ 2.375%
Dot plot shows more hawkish tilt
- อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการลดงบดุลหรือ Balance Sheet Run-off แต่ได้กล่าวว่าจะเริ่มลดงบดุลในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้ตลาดมองว่าจะเริ่มเห็นรายละเอียดในช่วงการประชุมเดือน พ.ค. หรือ มิ.ย. นี้
U.S. Economic Projection