BBLAM ชวนลงทุนระยะยาวในเทรนด์ที่ใช่สไตล์ที่ชอบ กับ 2 ทางเลือกใหม่ B-INNOTECHSSF และ B-ASIASSF ที่เตรียมเสนอขาย IPO พร้อมกัน 21-27 เม.ย. นี้

BBLAM ชวนลงทุนระยะยาวในเทรนด์ที่ใช่สไตล์ที่ชอบ กับ 2 ทางเลือกใหม่ B-INNOTECHSSF และ B-ASIASSF ที่เตรียมเสนอขาย IPO พร้อมกัน 21-27 เม.ย. นี้

นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า BBLAM ยังคงเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนำกองทุนต่างประเทศที่มีธีมการลงทุนที่นักลงทุนให้ความสนใจมากมาเสนอขายในรูปแบบกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) โดยเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยีเพื่อการออม (B-INNOTECHSSF) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการออม (B-ASIASSF) ระหว่างวันที่ 21-27 เมษายน 2565

“การลงทุนในเมกะเทรนด์ระยะยาวนั้น เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ แต่ก็ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญ คือ เงิน ผลตอบแทน และเวลา ซึ่งเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด  ยิ่งเราลงทุนระยะยาวเท่าไหร่ โอกาสที่ผลตอบแทนจะเพิ่มได้ ก็ยิ่งมีมากขึ้น และถ้าลงทุนผ่านกองทุนประหยัดภาษี ก็เหมือนได้แต้มต่อเพิ่มขึ้นอีก ซึ่ง BBLAM คัดมาให้แล้วว่ากลุ่มเทคโนโลยีและเอเชีย คือ เมกะเทรนด์ที่ลงทุนระยะยาวได้ จึงนำเสนอเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ลงทุนในรูปแบบกองทุน SSF” นายวศิน กล่าว

สำหรับ B-INNOTECHSSF จะไปลงทุนในกองทุน B-INNOTECH เพียงกองทุนเดียว ซึ่ง B-INNOTECH ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการแข่งขัน และปรับราคาขึ้นได้ ทำให้ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อค่อนข้างจำกัด ขณะเดียวกันก็ขยายโอกาสลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีขนาดกลางและเล็ก ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง แต่ถูกเทขายลงมาจนมูลค่าน่าสนใจ โดยเทคโนโลยีที่กองทุนต่างประเทศให้น้ำหนักลงทุนในช่วงนี้คือ คลาวด์ และเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ส่วนตัวอย่างหุ้นที่กองทุนต่างประเทศลงทุนอยู่ ได้แก่ Microsoft ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก, Samsung Electronics ผู้ผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ข้ามชาติ สัญชาติเกาหลีใต้ และ VISA ผู้ให้บริการการชำระเงิน เป็นต้น

ส่วน B-ASIASSF จะลงทุนในกองทุน B-ASIA เพียงกองทุนเดียว โดย B-ASIA ไปลงทุนผ่านกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นได้ทั่วภูมิภาคเอเชียแต่ไม่ได้ลงทุนในญี่ปุ่น โดยลงทุนได้หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งหุ้นเอเชียน่าสนใจ เนื่องจาก กำไรของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง และบางประเทศ มูลค่าหุ้นน่าสนใจมาก เช่น จีน อินโดนีเซีย และไทย เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนตัวอย่างหุ้นที่กองทุนต่างประเทศลงทุน ได้แก่ TSMC ผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ Tencent Holdings บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน Ming Yang Smart Energy Group ผู้ผลิตกังหันลมที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน CNOOC บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีน และ Bank Negara Indonesia Persero Tbk ธนาคารของรัฐในอินโดนีเซีย

“หากผู้ลงทุนรับความเสี่ยงได้สูง จากความผันผวนของหุ้น และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้ง B-INNOTECHSSF และ B-ASIASSF ก็เป็นทางเลือกที่จะตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี จากการลงทุนในธีมที่ใช่ สไตล์ที่ชอบได้” นายวศิน กล่าว

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดกองทุน B-INNOTECHSSF และ B-ASIASSF หรือติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและคู่มือการลงทุนได้ที่ BBLAM โทร. 0 2674 6488 กด 8 หรือผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส    บมจ.หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน  บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย)    บมจ.หลักทรัพย์   เกียรตินาคินภัทร   บจ.หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรี บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) และบจ.หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา

นอกจากนี้ยังลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ในช่วงเวลา 8.30 – 15.30 น. และชำระเงินลงทุนผ่านบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพได้ หรือลงทุนผ่าน BF Fund Trading จาก BBLAM รวมทั้งช่องทางของตัวแทนขายที่ได้รับการแต่งตั้ง

 

ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน

ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นกับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

 

BBLAM

20 เมษายน 2565