ไชน่า เดลี่ รายงานว่า อี่ไฉ หนังสือพิมพ์ด้านการเงินจีน ระบุว่า มีถึง 89 เมืองในจีน ที่มีประชากรอาศัยในเมืองมากกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นมา 4 เมืองจากปีที่ผ่านมา โดย 4 เมืองที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ได้แก่ เมืองจุนอี้ (Zunyi) เมืองไท่อัน (Taian) เมืองจางเจียโข่ว(Zhangjiakou) และฉีเฟิง (Chifeng)
ทั้งนี้ ในจำนวนเมืองทั้งหมดที่มีประชากรในเมืองเกิน 1 ล้านคน พบว่ามี 27 เมือง คือเมืองหลักและเมืองรอง เช่น เมืองที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล เมืองหลวงของจังหวัด มีประชากรอาศัยในเมืองมากกว่า 3 ล้านคน อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์อี่ไฉ ระบุว่า เมืองรองอย่าง หนิงโป ฉือเจียจวง และหนานชาง มีประชากรในเมืองใกล้ 3 ล้านคนแล้ว และน่าจะถึงระดับ 3 ล้านคนได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ขณะที่อีก 12 เมือง มีประชากรในเมืองมากกว่า 5 ล้านคน ประกอบด้วย ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น เทียนจิน ฉงชิ่ง อู่ฮั่น เฉิงตู นานจิง เจิ้งโจว หางโจว และเสิ่นหยาง ซึ่งหนังสือพิมพ์อี่ไฉ ประเมินว่า ยังมีเมืองอีกจำนวนหนึ่งที่เตรียมเข้าข่ายมีประชากรในระดับนี้เช่นกันในอนาคต เช่น ฮาร์บิน ชิงเต่า และซีอาน ซึ่งปัจจุบันมีประชากรในเมืองมากกว่า 4 ล้านคนแล้ว
หนิว เฟิงรุ่ย นักวิจัย จากสถานบันวิจัยเกี่ยวกับเมืองและสิ่งแวดล้อมภายใต้สถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวไว้กับ หนังสือพิมพ์อี่ไฉ ว่า ปัจจุบัน จีนมี 4 เมืองหลักใหญ่ที่มีประชากรเกิน 4 ล้านคนในเมือง ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้น โดยภาพรวมสาธารณรัฐประชาชนจีน มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน จะมีถึง 10 เมืองหรือมากกว่านี้ที่จะเป็นเมืองขนาดใหญ่มีประชากรเกิน 10 ล้านคนในอนาคต