โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐ ประเมินว่า จีนอาจจะต้องยุติมาตรการโควิดเป็นศูนย์ก่อนเดือนเม.ย. ในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้มาก โดยมีการประเมินกันว่า การออกจากมาตรการดังกล่าวนั้น อาจจะไม่เป็นระเบียบเท่าไรนัก
นางหุย ชาน หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ ประเทศจีน ของธนาคาร ระบุในรายงานว่า มีความเป็นไปได้ประมาณ 30% ที่จีนจะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งก่อนไตรมาสสองของปี 2566
“ในไม่ช้า รัฐบาลกลางอาจต้องเลือกระหว่างการล็อกดาวน์เพิ่มมากขึ้น หรือไม่ก็การระบาดของโควิดมากขึ้น” นางหุย เขียนและระบุต่อไปว่า รัฐบาลท้องถิ่นพยายามดิ้นรน เพื่อปรับสมดุลในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส ในขณะที่ปฏิบัติตามมาตรการล่าสุดที่กําหนดให้มีแนวทางที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น
เศรษฐกิจจีน กำลังได้รับผลกระทบอย่างยิ่งจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ด้วยการควบคุมที่เข้มข้นมากขึ้นซึ่งควบคุมไปถึงการขนส่ง กิจกรรมทางธุรกิจของผู้คน ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งมาตรการดังกล่าวทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ๆ ทั้งในเซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง
ขณะที่ สำนักข่าวรอยเตอร์ และเอเอฟพี รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (27 พ.ย.) ว่า ชาวจีนออกมาชุมนุมต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดในหลายเมืองทั่วประเทศ ทั้งที่นครเซี่ยงไฮ้ และการชุมนุมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่กรุงปักกิ่ง หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงแห่งหนึ่งในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ที่มีผู้เสียชีวิต 10 ราย
เหตุเพลิงไหม้อาคารที่พักอาศัยในเมืองอุรุมชีทำให้เกิดคลื่นของอารยะขัดขืนทั่วจีน โดยเมื่อวันศุกร์ มีการชุมนุมประท้วงที่เมืองอุรุมชี
ส่วนในเซี่ยงไฮ้ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดของจีน ชาวเซี่ยงไฮ้มาชุมนุมกันเมื่อคืนวันเสาร์ ที่ถนนอูหลู่มู่ฉี ซึ่งเป็นภาษาจีนกลางของคำว่า อุรุมชี เพื่อจุดเทียนไว้อาลัยให้กับเหยื่อเหตุเพลิงไหม้อาคารสูงในเมืองอุรุมชี ในช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ ประชาชนที่มารวมตัวกันกลายเป็นการชุมนุมประท้วงมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดของรัฐบาล
ที่มา: รอยเตอร์