สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม คณะผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนราว 3 พันคน ได้ลงคะแนนโหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ทั้งยังโหวตรับรองให้นายสี ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางเป็นสมัยที่ 3 อีกด้วย ซึ่งถือเป็นการกระชับอำนาจเด็ดขาดไว้ในมือนายสี และทำให้เขากลายเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของจีน นับจากเหมา เจ๋อตุง
การประชุมดังกล่าวมีขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน โดยการลงคะแนนโหวตกินระยะเวลาราว 1 ชั่วโมงและนับคะแนนด้วยเครื่องนับคะแนนอิเล็กทรอนิกส์อีกราว 15 นาที ผลการลงคะแนนรับรองการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสีต่อไปอีก 5 ปี อยู่ที่ 2,952 ต่อ 0
นอกจากนั้นแล้ว ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังโหวตให้นายจ้าว เล่อจี้ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการตรวจสอบวินัยศูนย์กลางพรรค ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติ และนายหาน เจิ้ง รองนายกรัฐมนตรีจีน ถูกรับเลือกให้ขึ้นเป็นรองประธานาธิบดีจีนคนใหม่ โดยทั้งคู่มาจากคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองชุดเก่าที่เพิ่งหมดวาระไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
หลังทราบผลการลงคะแนน ประธานาธิบดีสีได้ขึ้นกล่าวคำสาบานตนที่ถูกถ่ายทอดสดไปยังสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศจีน ว่า “ผมสาบานว่าจะซื่อสัตย์ต่อรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อธำรงไว้ซึ่งอำนาจของรัฐธรรมนูญ ผมจะปฏิบัติภารกิจหน้าที่ตามกฎหมาย ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินมาตุภูมิ และซื่อสัตย์ต่อประชาชนชาวจีน” พร้อมกับรับปากว่า จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และทุ่มเท
ประธานาธิบดีสี กล่าวอีกว่า จะสร้างความรุ่งเรือง ความแข็งแกร่ง ความเป็นประชาธิปไตย ความศิวิไลซ์ ความสามัคคี และความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศจีน
การโหวตรับรองการนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีและประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลางของจีนต่อไปอีก 5 ปีมีขึ้น หลังจากที่สีได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ต่อไปอีกสมัย ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เมื่อเดือนตุลาคม 2022 และได้ฉีกกฎที่จำกัดไม่ให้ประธานาธิบดีจีนคนใดดำรงตำแหน่งมากกว่า 2 สมัย ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปี 2018
เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีสีจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในคณะรัฐมนตรีในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนในอีก 2 วันข้างหน้า รวมถึงจะแต่งตั้งนายหลี่ เฉียง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำนครเซี่ยงไฮ้ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่แทนที่นายหลี่ เค่อเฉียง
นายสตีฟ ซ่าง ผู้อำนวยการสถาบันเอสโอเอเอส ไชน่า กล่าวให้ความเห็นกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “เราจะเห็นจีนมีท่าทีที่แน่วแน่ขึ้นบนเวทีโลก” ซ่าง กล่าว อีกว่า จีนจะลดการพึ่งพาโลกภายนอกให้น้อยลง และทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นศูนย์รวมแห่งธรรมาภิบาลมากกว่าแทนที่จะเป็นรัฐบาลจีน
ที่มา: เอเอฟพี / รอยเตอร์