กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-VIETNAMRMF)
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการออม (B-VIETNAMSSF)
“ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับแรงกดดันจากการผิดนัดชาระหนี้ของบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มธนาคารมีความกังวลเรื่องหนี้เสียเพิ่มขึ้น ทั้งสองกลุ่มนี้มีน้ำหนัก 56% ในดัชนี VN Index
“ตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงไตรมาสสองยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับดอกเบี้ยสูง อีกทั้งสภาพคล่องในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งหลายๆ บริษัทจะมีการครบกำหนดชำระหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 และอาจลุกลามทำให้การผิดนัดชำระหนี้ในระบบธนาคารเพิ่มขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะส่งกระทบเชิงลบต่อ 2 อุตสาหกรรมหลัก คือ กลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง VN Index โดยรวม”
“กลยุทธ์หลักยังคงเน้นลงทุนใน 3 Theme การลงทุนหลัก คือ 1) การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และ 3) หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนตรงจากต่างประเทศ และการย้ายฐานการผลิต โดยเน้นการลงทุนทั้งในหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดกลางและเล็ก”
ภาพรวมตลาด
ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับแรงกดดันจากการผิดนัดชาระหนี้ของบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มธนาคารมีความกังวลเรื่องหนี้เสียเพิ่มขึ้น ทั้งสองกลุ่มนี้มีน้ำหนัก 56% ในดัชนี VN Index อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนมองว่า ประเด็นดังกล่าว มีแนวโน้มยังไม่ลุกลามไปเป็นวิกฤตทางการเงิน เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่มีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) อยู่ที่ราวๆ 30-40% ของมูลค่าทางบัญชีโดยเฉลี่ย ทำให้สามารถควบคุมความเสี่ยงโดยรวมได้ ทั้งนี้ ความเสี่ยงหลักในปัจจุบันอยู่ที่การลุกลามของการผิดชาระหนี้หุ้นกู้ไปยังบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ ในตลาด ซึ่งมีแนวโน้มจะขอชะลอการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นของหุ้นกู้ เช่นกัน
พอร์ตการลงทุน
ทั้งนี้ โดยปัจจุบัน กองทุน Underweight การลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยมีสัดส่วนการลงทุน อยู่ที่ 13.5% ใน B-VIETNAM และ 15.13% ใน B-VIETNAM RMF ในขณะที่ VN INDEX มีสัดส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยรวมที่ 16% การลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนจะเน้นกระจายตัวอยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (Residential Property) อสังหาริมพย์เชิงพาณิชย์ (Commercial Real Estate) และนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเน้นหุ้นที่ Valuation ไม่แพง มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และ มีโอกาสที่จะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มในภาวะที่อุตสาหกรรมโดยรวมอ่อนแอ
มุมมองในอนาคต
• ตลาดหุ้นเวียดนามในช่วงไตรมาสสองยังมีความเสี่ยงเกี่ยวกับดอกเบี้ยสูง อีกทั้งสภาพคล่องในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ซึ่งหลายๆ บริษัทจะมีการครบกำหนดชาระหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 และอาจลุกลามทำให้การผิดนัดชาระหนี้ในระบบธนาคารเพิ่มขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะส่งกระทบเชิงลบต่อ 2 อุตสาหกรรมหลัก คือ กลุ่มการเงินและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึง VN Index โดยรวม ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะเติบโตราวๆ 7-10% ปรับลดลงจากที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ราวๆ 15% อย่างไรก็ตาม Valuation VN Index ที่ PE ราวๆ 11.6x ได้สะท้อนความเสี่ยงของตลาดไปค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งภาครัฐยังมีแนวโน้มจะออกมาตรการแก้ปัญหาสภาพคล่องในระบบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยืดระยะเวลาให้ผู้ออกหุ้นกู้ขยายระยะเวลาไถ่ถอนและลดความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ รวมถึงปัจจัยบวกจากการเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เพื่อลดผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
• ทั้งนี้ กลยุทธ์หลักยังคงเน้นลงทุนใน 3 Theme การลงทุนหลัก คือ 1) การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และ 3) หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนตรงจากต่างประเทศ และการย้ายฐานการผลิต โดยเน้นการลงทุนทั้งในหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นขนาดกลางและเล็ก
Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ อาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เอกสารนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน มิได้มีวัตถุประสงค์ชักชวน ชี้นำ ให้ความเห็น
หรือคำแนะนำในการตัดสินใจลงทุนทางการเงิน หรือการตัดสินใจในทางธุรกิจแต่อย่างใด ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังและวิจารณญาณจาก การใช้ข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดของเอกสารฉบับนี้
ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุน ในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่ง ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต