“ธนาคารกลางจีน” ไม่เพียงเข้าอุ้มเงินหยวนที่เทรดคู่กับสกุลเงิน “ดอลลาร์” เท่านั้น แต่ยังเข้าแทรกแซงเงินหยวนที่ซื้อขายคู่กับค่าเงินอีก 23 ประเทศ เช่น ยูโร เยน และปอนด์ ท่ามกลาง “แรงขายหยวน” จำนวนมาก เพราะเศรษฐกิจปั่นป่วน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า ภาระของรัฐบาลจีนใน “การควบคุมค่าเงินหยวนไม่ให้อ่อนค่า” ลงหนักนั้น ขยายตัวไปไกลมากกว่าแค่การเทรดแบบเทียบเคียงกับดอลลาร์
โดยธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เข้าอุ้มสกุลเงินหยวนเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนของคู่ค้าอีก 23 ประเทศ เช่น ยูโร เยน และปอนด์ ผ่านการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนรายวัน (Reference Rate) เทียบกับสกุลเงินเหล่านี้ตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ตามการคำนวณของบลูมเบิร์ก ซึ่งส่งผลให้ดัชนีค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าอื่น
ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ในปีนี้นักลงทุนขายเงินหยวนออกมาจำนวนมาก เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังและความวุ่นวายในภาคอสังหาริมทรัพย์ กระตุ้นให้ PBOC ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนโยบายการเงินแตกต่างไปจากส่วนอื่นๆ ของโลกและทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง
โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่จีนจึงต้องชั่งน้ำหนักว่า สิ่งนี้อาจนำไปสู่เงินทุนไหลออกปริมาณเท่าใด เมื่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอ่อนตัวลง
ที่มา: บลูมเบิร์ก