เจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เตือนว่า โลกต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 7% และจะเกิด stagflation หรือภาวะเงินเฟ้อสูง ในขณะที่เศรษฐกิจชะงักงันพร้อมการว่างงานสูง
วันที่ 25 กันยายน 2023 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co.) ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ ไทม์ส ออฟ อินเดีย (Times of India) ว่า โลกอาจไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุดของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะแตะ 7% พร้อมกับเกิดภาวะ stagflation คือ ภาวะเงินเฟ้อสูง ในขณะที่เศรษฐกิจชะงักงันและการว่างงานสูง
ไดมอน กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจต้องปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ และเขากล่าวเสริมว่า ความแตกต่างระหว่างอัตรา 5% กับ 7% จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเศรษฐกิจมากกว่าการเปลี่ยนจากอัตรา 3% เป็น 5%
ความคิดเห็นของเขาตรงกันข้ามกับมุมมองที่เป็นเอกฉันท์ว่า เฟดกำลังเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวงจรการขึ้นดอกเบี้ยที่เข้มงวดแล้ว หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยเป็น 5.25-5.50% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสูงเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า อัตราดอกเบี้ยจะต้องสูงขึ้นไปอีกเป็นเวลานานเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าตลาดเงินจะเทน้ำหนักว่า จะเริ่มมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
ที่มา: บลูมเบิร์ก