ไชน่าเดลี่ รายงานว่า ผู้บริหารบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงล้วนลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อการเติบโตขององค์กร สะท้อนได้จากรายงานที่จัดทำขึ้นโดย KPMG บริษัทผู้ให้บริการด้านการสอบบัญชี ภาษี และให้คำปรึกษาระดับโลก
จากรายงาน ‘2018 China CEO survey’ เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันและการสร้างนวัตกรรมเพื่อการเติบโต ได้สำรวจประธานเจ้าหน้าที่บริหารองค์กรทั่วโลก 1,300 คน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยผู้บริหารที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง 125 คน ซึ่งมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ผลสำรวจที่ได้สะท้อนว่า ผู้บริหารองค์กรในจีนส่วนใหญ่ คือ 91% มองว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจมากกว่าเป็นตัวฆ่าธุรกิจ โดยมุมมองนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 75%
ขณะที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริหารในจีน ระบุว่า ได้ใช้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าไปทำงานเพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดการกับข้อมูล และด้านประสบการณ์ของลูกค้า
ขณะเดียวกันสัดส่วนของผู้บริหารในจีนที่ตอบว่ามีความตั้งใจจะร่วมมือกับกลุ่มสตาร์ทอัพมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี เพิ่มการลงทุนเพื่อป้องกันการถูกทำลายล้างด้วยเทคโนโลยี และการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยนวัตกรรม ก็มีมากกว่าสัดส่วนผู้บริหารในประเทศอื่นๆ ที่ตอบแบบสำรวจ
Honson To ประธาน KPMG ประจำจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การสนับสนุนนวัตกรรมเป็นปัจจัยหลักภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 13 ที่รัฐบาลจีนจัดทำขึ้น โดยในแผนนี้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมใหม่ๆ กระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างธุรกิจ พยายามสร้างเวทีวิจัยและพัฒนาระดับสูง
นอกจากนี้ สัดส่วนผู้บริหารจีน 2 ใน 3 ที่ตอบแบบสำรวจ ยังระบุอีกว่า องค์กรของพวกเขาให้ความสำคัญกับการขยายฐานในตลาดเกิดใหม่ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น อเมริกากลาง อเมริกาใต้ ยุโรปตะวันออก หรือเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการให้น้ำหนักขยายตลาดเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะสอดคล้องกับเส้นทางสายไหมใหม่ของจีนที่พัฒนาเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า เพื่อผลักดันการค้า การลงทุน และการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค