BF Knowledge Tips: เงินเพื่อลูกกับกองทุนรวม

BF Knowledge Tips: เงินเพื่อลูกกับกองทุนรวม

ช่วงนี้ก็ใกล้เปิดเทอมแล้วนะครับ พอใกล้จะเปิดก็นึกถึงเรื่องค่าใช้จ่าย เดี๋ยวนี้ การมีลูกซักคนนึง ค่าใช้จ่ายสูง แล้วก็ไม่ใช่แค่เรื่องค่าเล่าเรียน หรือค่าเทอมเท่านั้น เราทราบกันดีว่า ในยุคสมัยปัจจุบัน อยากจะเลี้ยงเด็กคนนึงให้มีชีวิตที่ดี ค่าใช้จ่าย หรือความจำเป็นเรื่องของเงินก็ตามมา

ที่นี้ก็ทำให้ชวนคิดว่า จะมีวิธีการจัดการ วิธีการบริหารในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง จริงๆ แล้วการเลี้ยงเด็กคนนึงกว่าจะโต ถ้าเริ่มต้นเกิดมาเข้าอนุบาล เข้ามัธยม จนจบมหาวิทยาลัย ก็เป็นระยะเวลาประมาณ 20 ปี หรือ 22 ปี ในขณะเดียวกัน ความยาวแบบนี้ เรามองได้ว่า ในมุมของการลงทุน การเก็บออม เราสามารถประยุกต์ใช้ในกองทุนรวม ที่เป็นลักษณะของการลงทุนระยะยาวคู่กันได้ เพราะว่า ระยะเวลาที่นานพอๆ กันนะครับ คำแนะนำก็คือว่า ลองพิจารณา ถ้าเรามีระยะเวลานานพอเข้าใจ เราสามารถเลือกกองทุนรวมเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนได้ครับ

ลงทุนแบบระยะยาวนี่แหละ ลงทุนเป็นรายเดือน ไม่ต้องใช้เงินเยอะ แต่ละเดือน อาจจะ 1,000 2,000 3,000 หรือ 500 บาท ก็ได้ แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละบุคคลเลย ผมเรียนครับว่า วิธีการนี้น่าสนใจและทำให้เราทำได้ ระยะเวลา หรือกรอบเวลาที่เรากำหนดที่จะโตไปพร้อมลูกๆ ของเรา ไม่ทำให้เรารู้สึกว่า เงินก้อนนี้จะจมหายไป เพราะว่า สุดท้ายแล้ว จะนำมาใช้ในอนาคตครับ เราลองวางเป้าหมาย ว่า เราจะมีเป้าหมายอะไรบ้างสำหรับการเตรียมเงินก้อนไว้ให้กับลูกในอนาคต

ลองนึกภาพดูนะครับ เราเลี้ยงเขาจนโต จนจบการศึกษา ประมาณ 21 ปี ถึงตอนนั้น จะดีแค่ไหน ถ้าเรามีเงินเตรียมไว้ให้เค้าซักก้อนนึงไว้ใช้จ่าย หรือเป็นทุนรอนในการดำเนินชีวิต หรือมองในสั้นกว่านั้น ถ้าสมมุติ เราคาดว่า วันที่เค้าโตไปจนถึงระดับมัธยมศึกษา หรือพอที่จะดูแลตัวเองได้ เราอยากจะส่งเค้าไปซัมเมอร์ในต่างประเทศซักปีนึง ถ้าเรามีเงินก้อนที่เราเตรียมไว้ โดยที่ใส่ไว้ตั้งแต่เค้าเด็ก ตั้งแต่แรกเกิด ก็จะทำให้เราไม่เป็นภาระในอนาคต วิธีการนะครับ เราใส่เงินให้เขาทุกๆ เดือน Dollar Cost Average หรือลงทุนแบบถัวเฉลี่ย เพียงแต่ทำให้เป็นกิมมิกเฉพาะเขา ก็คือ เลือกกองทุนมา และกองทุนนี้ไม่ต้องลงทุนอย่างอื่นเลย เป็นเงินก้อนสำหรับลูกเท่านั้น ใส่เดือนละ 2,000 บาท ถ้าเขาเกิดวันที่ 9 เราก็ตัดบัญชีของเรา ทุกวันที่ 9 เพื่อให้เป็นอะไรพิเศษสำหรับเขา ตัดไปที่ละ 2,000 บาท จนอายุประมาณ 15 ปี เงิน 2,000 บาท ใน 15 ปี เฉพาะเงินต้นก็คือ 360,000 บาท แล้วนะครับ

ถ้าสมมุติ เราลงทุนในกองทุนรวม แบบไม่ต้องมีผลตอบแทนมากอยู่ประมาณ 3% จากเงิน 360,000 บาท พอเวลาผ่านไป 15 ปี กับผลตอบแทน 3% ก็อยู่ประมาณ 450,000 บาท ซึ่งก็เป็นเงินที่มากพอที่จะส่งเขาไปซัมเมอร์ดีๆ หรือเอาไปใช้จ่ายในช่วงที่เค้าจำเป็นต้องเตรียมตัวในช่วงของการศึกษาเข้ามหาวิทยาลัย หรือว่า ถ้าลงทุนไปนานๆ จนเขาจบการศึกษาประมาณ 21 ปี เงินก้อนนี้กับผลตอบแทน 3% ก็อยู่ที่ประมาณ 700,000 บาท ก็ถือไม่น้อยนะครับที่จะเป็นเงินตั้งต้น หรือเตรียมไว้ให้เขาใช้จ่ายในวันที่เขาจะเริ่มต้นทำงาน

แต่ถ้าสมมุติว่า ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่านั้นอีกหน่อย เลือกกองทุนที่ดูมีอนาคต เลือกกองทุนที่เป็นกองทุนหุ้น ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าก็อาจจะถึง 1 ล้านบาท ได้ง่ายๆ สำหรับการเตรียมเงินก้อนนี้ไว้ให้เขา โดยอาจจะไม่รู้สึกว่า เรามีภาระเลยก็ได้ เพราะการใส่เงินเข้าไปในบัญชีเดือนละ 2,000 บาท เดี๋ยวนี้ ก็อาจจะไม่ทำให้เรารู้สึกว่า เรามีค่าใช้จ่ายหรือภาระเพิ่มเติมนะครับ

นี่คือ พลังของระยะเวลาการลงทุน พลังของการ Dollar Cost ที่จะทำให้การเติบโตของเงินมีมากในอนาคต ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับลูกได้ครับ ที่นี้ คำถามต่อมา ก็คือว่า เวลาเราเลือกกองทุนเราเลือกอย่างไร จำเป็นต้องย้ายหรือไม่ แนะนำอย่างนี้นะครับ ถ้าเราเลือกเป้าหมายอยู่แล้ว ว่าเป็นการลงทุนระยะยาวจริงๆ 10 กว่าปีขึ้นไป 15 ปี 21 ปี แบบนี้ วิธีการก็คือ เลือกกองทุนหุ้น ที่เป็นลักษณะที่เป็นกองทุนที่เน้นหุ้นปัจจัยพื้นฐาน เน้นหุ้นคุณภาพ และมีการกระจายตัวของกองทุนหลาย Sector ไม่กระจุกตัวอยู่ใน Sector หรือประเทศใดประเทศหนึ่งมากเกินไป เพราะว่า วิธีนี้จะทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนหุ้นไปในอนาคตได้ เมื่อผ่านไป 5 ปี 7 ปี แล้วประเทศต่างๆ หรือ Sector ต่างๆ หรือธีมต่างๆ มีการเปลี่ยนไปตามยุคสมัยหรือตามเทคโนโลยี แต่ว่า ผู้จัดการกองทุนลักษณะที่เป็นกองปัจจัยพื้นฐานแบบกว้างแบบนี้ ก็จะสามารถที่เปลี่ยนหุ้นให้เหมาะกับสถานการณ์นั้นได้ แบบนี้เหมาะกับการลงทุนแบบ Dollar Cost การเก็บเงินให้ลูกแบบนี้ครับ