โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ 11:1 ( Fed Governor Michelle Bowman โหวตให้ปรับลง 0.25%) เห็นควรให้ปรับลดเป้าหมายช่วงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds Rate ลง 50 bps มาอยู่ที่ 4.75%-5% ในการประชุมเดือนก.ย. 2024
- การปรับลดครั้งนี้เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020
- ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็มีการคาดเดาว่า Fed อาจเลือกปรับลดแบบระมัดระวังกว่า โดยมีส่วนที่มองว่าจะลด 25 bps
- การประชุมครั้งนี้ Fed ได้เผยแพร่การคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ คาดการณ์เงินเฟ้อ PCE ถูกปรับลดลงสำหรับปี 2024 มาอยู่ที่ 2.3% (จากเดิมคาดการณ์ 2.6% ในเดือนมิ.ย.) และปี 2025 มาอยู่ที่ 2.1% (จากเดิม 2.3%)
- ขณะที่ เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) คาดว่าจะลดลงเช่นกัน โดยอยู่ที่ 2.6% ในปี 2024 (จากเดิม 2.8%) และ 2.2% ในปี 2025 (จากเดิม 2.3%)
- GDP Growth ถูกปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2% (จากเดิม 2.1%) แต่คาดการณ์สำหรับปี 2025 ยังคงอยู่ที่ 2% ในขณะเดียวกัน อัตราการว่างงานคาดว่าจะสูงขึ้นในปีนี้ (4.4% จากเดิม 4%) และปีหน้า (4.4% จากเดิม 4.2%)
- Dot Plot รอบนี้คาดว่า อัตราดอกเบี้ย Fed จะลดลงมาอยู่ที่ 4.4% ในปี 2024 สะท้อนว่า Fed อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 50 bps หรือ 2 ครั้ง ภายในสิ้นปีนี้ และปรับลดอีก 100 bps สู่ 3.4% ในปี 2025 และปรับลงอีก 50 bps สู่ 2.9% ในปี 2026
ข้อความใน Statement ที่เปลี่ยนแปลงไปจากการประชุมครั้งก่อนหน้า ได้แก่
- อัตราเงินเฟ้อได้คืบหน้าเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของคณะกรรมการมากขึ้น แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่เล็กน้อย (Remain somewhat elevated)
- คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนเข้าสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน และยังคงมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการสนับสนุนการจ้างงานอย่างเต็มที่
Powell กล่าวสวนทางกับดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลงว่า
“ปัจจุบันไม่มีสัญญาณในเศรษฐกิจที่บ่งบอกว่า ความเสี่ยงของภาวะถดถอยจะเพิ่มขึ้น โดยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำมากในอดีตจะไม่กลับมา เป้าหมายของนโยบาย คือ การรักษาเสถียรภาพของราคาโดยไม่ทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการนโยบายการเงินก็ไม่ได้เร่งรีบที่จะบรรลุเป้าหมายนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดเป็นเพียงการปรับจูน (Recalibrate) ไม่ได้หมายความว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยทุกครั้ง และทุกการตัดสินใจจะพิจารณาอย่างระมัดระวังตามสถานการณ์ในแต่ละการประชุม”