โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) มีมติเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค.สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

มุมมองเศรษฐกิจของ BOJ คาดว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเติบโตสูงกว่าอัตราการเติบโตตามศักยภาพ (Potential Growth Rate) แม้การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มคงที่ แต่กำไรของบริษัทได้ปรับตัวดีขึ้น รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจอยู่ในระดับที่สูง ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปานกลาง แม้การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มคงที่ และการลงทุนในที่อยู่อาศัยค่อนข้างอ่อนแอ สำหรับสถานการณ์การจ้างงานและรายได้ปรับสูงขึ้น เป็นผลให้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ขณะที่สภาพการเงินยังคงผ่อนคลาย

สำหรับมุมมองด้านราคา อัตราเงินเฟ้อ (สินค้าทุกชนิดยกเว้นอาหารสด) คาดว่าเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และอยู่ที่ 2.5% YoY สำหรับปีงบประมาณ 2024 และชะลอลงสู่ประมาณ 2% ในปีงบประมาณ 2025 และ 2026 ด้านราคาการบริการเพิ่มขึ้นสะท้อนผ่านค้าจ้างที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินเฟ้อยังมีปัจจัยลดลงจากการส่งต่อราคาของต้นทุนสินค้านำเข้าที่ลดลง

ด้าน Tankan Survey ที่เก็บข้อมูลเมื่อต้นเดือน ต.ค. ให้ข้อมูลว่า ภาคธุรกิจมองอัตราเงินเฟ้อจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว จากค่าจ้างที่เป็นตัวเงิน (Nominal Wage) ปรับเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนถึง Output Gap ที่ขยายตัวขึ้น เพื่อเสถียรภาพด้านอัตราเงินเฟ้อในประเทศ BoJ จะคอยติดตามปัจจัยการกำหนดค่าจ้างอย่างใกล้ชิด

ความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง BoJ จะจับตาถึงพฤติกรรมการกำหนดจ้างในบริษัทของญี่ปุ่น และคอยติดตามเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ในขณะที่ ปัจจัยราคาสินค้าโภคภัณฑ์จากต่างประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังซึ่งมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยรวม

สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ ทั้ง GDP และอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ปรับเปลี่ยนการประมาณการจากรั้งก่อนหน้าสำหรับปี 2024 แต่ปรับคาดการณ์ GDP ในปี 2025 ขึ้นเป็น 1.1% (vs. prev. 1%) และลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ลงเหลือ 1.9% (vs. prev. 2.1%)