BF Economic Research 

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.0% (จากที่ได้ปรับดอกเบี้ยขึ้นในครั้งก่อนเมื่อเดือน มี.ค.) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด

ขณะที่ FOMC มีมติปรับขึ้น Fed Fund Rate 0.25% แต่กลับปรับขึ้น IOER 0.2% เป็นผลให้ IOER ขยับขึ้น 1.95% ต่ำกว่า Fed Fund Rate 0.05% พร้อมกันนี้ FOMC ได้กล่าวว่า ได้เริ่มการลดงบดุลตามแผนที่ได้เคยระบุไว้ในเดือน มิ.ย. 2017

ในการประชุมดังกล่าวได้เผยประมาณการเศรษฐกิจ (GDP, Unemployment, และ Inflation) ส่วนใหญ่เป็นการปรับประมาณการเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ให้ระยะกลาง-ยาว เท่าเดิม (สะท้อนว่า Fed มองว่า Fiscal Stimulus ให้ผลระยะสั้น) พร้อมทั้งปรับประมาณการ Dot Plot เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยด้วย รายละเอียดอื่นๆดังนี้;

• Fed ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปีนี้ สู่ระดับ 8% จากเดิมที่ 2.7% และคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าที่ระดับ 2.4% ส่วนการขยายตัวในปี 2020 ยังคงอยู่ที่ระดับ 2.0% ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%
• Fed ปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 2.38% ภายในสิ้นปีนี้ โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค. และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2019 สู่ระดับ 3.13% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.25% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.38% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม และระบุว่าอัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.9% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม  Dot Plot สะท้อนว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้  ส่วนในปีหน้า  FED ยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง

• Fed ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อสู่ระดับ 2.10% ในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 1.9% ส่วนในปีหน้า คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.0% ส่วนในปี 2020 คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ 2.1% และระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 2.0%
• Fed ปรับตัวเลขอัตราการว่างงานว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.6% ในปีนี้ จากเดิมที่ 3.8% และปรับตัวลงต่อไปในปีหน้าสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่ 3.6% ส่วนตัวเลขในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% จากเดิมที่ 3.6% ขณะที่ตัวเลขว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.5%

ในการประชุมดังกล่าว Fed ได้ระบุว่า Fed มีการปรับเปลี่ยนการใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงนี้  โดย Fed ระบุว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจ “ได้ปรับตัวขึ้นในอัตราที่แข็งแกร่ง” จากเดิมที่ใช้คำว่า “ได้ปรับตัวขึ้นปานกลาง” ในการประชุมเดือนมี.ค. ส่วนอัตราการว่างงาน “ได้ลดลง” จากเดิมที่ใช้คำว่า “อยู่ในระดับต่ำ” และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน “ได้ปรับตัวขึ้น” จากเดิมที่ใช้คำว่า “ได้ชะลอตัวลง”

ในระหว่าง Press Conf. ประธาน Fed ได้กล่าวว่า จะจัดให้มี Press Conf.  ทุกครั้งที่มีการประชุม โดยเริ่มตั้งแต่ เดือนม.ค. 2019 เป็นต้นไป สะท้อนว่าตลาดน่าจะมี Volatility มากขึ้น เนื่องจากจะคาดเดาได้ยากว่า FOMC จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งใด จากเดิมที่ตลาดมักคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเฉพาะในครั้งที่มี Press Conf.