เวียดนาม ตั้งเป้าออกบอนด์เพิ่มเกือบ 30% ปีนี้ เพิ่มใช้จ่ายภาครัฐฯ หลังภาษีทรัมป์จ่อกระทบส่งออก

เวียดนาม ตั้งเป้าออกบอนด์เพิ่มเกือบ 30% ปีนี้ เพิ่มใช้จ่ายภาครัฐฯ หลังภาษีทรัมป์จ่อกระทบส่งออก

เวียดนามเพิ่มการจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลอีกเกือบ 30% ในปีนี้ เร่งกระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐ หนุนการเติบโตและปกป้องเศรษฐกิจของประเทศจากผลกระทบมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เวียดนามโดนเรียกเก็บ 46%

เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยขยายตัวกว่า 7% ในปี 2024 จากการที่ต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานผลิตเพื่อส่งออกสินค้า เนื่องจากแรงงานของประเทศที่มีราคาถูก โดยปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของเวียดนามคิดเป็น 87% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ

ปัจจุบัน เวียดนามกำลังเผชิญภาษีศุลกากร 46% ที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเมื่อต้นเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค โดยนักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทวิจัย BMI คาดการณ์ว่า อาจฉุด GDP ลดลง 3 จุดเปอร์เซ็นต์

นอกจากการเตรียมเจรจากับสหรัฐฯ แล้ว รัฐบาลเวียดนามยังเตรียมเพิ่มการจำหน่ายพันธบัตร เพื่อสนับสนุนการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมา เวียดนามมักลังเลที่จะเพิ่มระดับหนี้สาธารณะ ซึ่งยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฮานอย ณ วันที่ 23 เม.ย. เผยว่า จนถึงขณะนี้ เวียดนามสามารถระดมทุนจากการขายพันธบัตรรัฐบาล ในรุ่นอายุต่างๆ รวมแล้ว 130.8 ล้านล้านดอง (5,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 26.7% จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบรถไฟและพลังงาน รวมไปถึงกระตุ้นการบริโภคในประเทศ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย GDP ปีนี้ที่ 8%

ส่วนเป้าหมายการระดมทุนในปีนี้ ข้อมูลกระทรวงการคลัง ระบุว่า รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 500 ล้านล้านดอง (19,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเท่ากับ 4% ของ GDP

ด้านอดัม แซมดิน (Adam Samdin) จาก Oxford Economics กล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามยังมีพื้นที่มากพอในการเพิ่มหนี้สาธารณะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่เพียง 36% ของ GDP ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 60% ที่กำหนดไว้สำหรับเพดานหนี้

ที่มา Reuters, สำนักข่าว อีไฟแนนซ์ไทย